นายกฯ แถลงเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ ย้ำพร้อมลุยสางปัญหาปากท้อง สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

(12 ต.ค. 2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะมุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างเต็มที่และระมัดระวังที่สุด เน้นบรรเทาปัญหาปากท้องให้ประชาชนเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปให้ได้

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือคำว่า "รวมไทยสร้างชาติ" ตอนนี้เห็นชอบ 3 มาตรการสำคัญ เพื่อการกระตุ้นการจับจ่ายในประเทศแล้ว ทั้งมาตรการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน เดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวม 1,500 บาท, โครงการ "คนละครึ่ง" เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน ส่งเสริมการบริโภค ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย และมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" มีเป้าหมายช่วยผู้ประกอบการในระบบภาษี และให้ประชาชนซื้อสินค้าและบริการแล้วสามารถนำในเสร็จมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท หวังกระตุ้นการซื้อสินค้าประเภทคงทน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่ออีกว่า ทุกประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพ ขออย่าทำลายศักยภาพของเราเองด้วยเรื่องที่ไม่ควรจะทำ เพราะจะทำให้ขาดความเชื่อและจะเรียกกลับมาไม่ได้แล้วหากเสียหาย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของการแข่งขัน หากทำร้ายกันตอนนี้เราจะตามประเทศอื่นไม่ทัน จึงขอฝากไปถึงประชาชนทุกคนให้ช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ช่วยกันเคารพกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้อื่น ส่วนการดูแลสถานการณ์การชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งตนเองคงไม่ต้องไปสั่งการอะไรเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามที่สื่อมวลชนส่งไปทั้งเรื่องที่ ส.ส.เยอรมนี ผลักดันให้ระงับการเจรจา Thai-EU FTA เพราะไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตย, กรณีทวิตเตอร์กล่าวหาว่าไทยใช้ปฏิบัติการ IO และจะตรวจสอบหรือชี้แจงทวิตเตอร์หรือไม่ รวมไปถึงกรณีการชุมนุม 14 ตุลาคม ที่แกนนำผู้ชุมนุมประกาศว่าจะเดินทางมาค้างคืนที่ข้างทำเนียบด้วย