ตำรวจปราบปรามยาเสพติด จับยาบ้า 1 ล้านเม็ด เฮโรอีน 400 กิโลกรัม ขยายผลยึดบ้าน-รถยนต์มูลค่ารวมกว่า 10 ล้าน

(8 ต.ค. 2563) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. ตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ป.ป.ส., ปปง. และทหาร ร่วมกันแถลงผลการจับกุมและขยายผลคดียาเสพติดรวม 4 คดี จับกุมผู้ต้องหารวม 13 คน ตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้ากว่า 1,042,000 เม็ด เฮโรอีน 400 กิโลกรัม และยึดทรัพย์สินของขบวนการค้ายาเสพติด ทั้งบ้านและรถยนต์ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า คดีแรกตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 สืบสวนจับกุมนายบุญฤทธ์ ส่งแสง กับพวกรวม 4 คน พร้อมยาบ้าประมาณ 1 ล้านเม็ด ซึ่งซุกซ่อนมาในกระสอบปุ๋ยใส่ไว้ท้ายรถบรรทุกได้ที่ลานจอดรถภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกที่หนึ่งเป็นปั๊มน้ำมันใน จ.นครศรีธรรมราช สืบเนื่องจากตำรวจสืบทราบข้อมูลว่า มีขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จะไปลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลางเพื่อส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ จึงสะกดรอยรถบรรทุกสิบล้อคันหนึ่ง ไปจนถึงปั๊มน้ำมันใน จ.เพชรบุรี ก่อนจะแสดงตัวเข้าตรวจค้นยึดของกลางยาบ้าดังกล่าวได้ จากนั้นได้ขยายผลต่อไปยังผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน ใน จ.นครศรีธรรมราช จึงคุมตัวทั้งทั้งหมด ทั้งนี้จากการสอบสวน นายบุญฤทธ์ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายจ้าง ให้มารับยาเสพติด ซึ่งเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ส่วนยาเสพติดที่ได้ไป จะนำไปกระจายในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นหลัก

คดีที่สอง ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 จับกุม นางสาวสหรัฐ นครวงษ์ กับพวกรวม 6 คน พร้อมของกลางเฮโรอีนน้ำหนัก 400 กิโลกรัม โดยมีการขยายผลจับกุมหลายพื้นที่ทั้งใน จ.นครสวรรค์, ปทุมธานี และจังหวัดตาก โดยคดีนี้ตำรวจสืบทราบว่า จะมีเครือข่ายกลุ่มชาติพันธ์ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจาก จ.เพชรบูรณ์เข้ามาในพื้นที่ภาคกลาง จึงเฝ้าสังเกตการณ์จนพบรถต้องสงสัย ขับไปทางอำเภอหล่มเก่า ขึ้นไปทางภูทับเบิก ก่อนจะวกกลับออกมาโดยมีวัตถุต้องสงสัยอยู่ท้ายรถ เชื่อว่าเป็นยาเสพติด ตำรวจจึงไปสกัดจับขอตรวจค้นรถ ที่จุดตรวจคอกควาย อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พบของกลางดังกล่าวใส่กระสอบปุ๋ยวางไว้ท้ายรถ จากนั้นจึงขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ นำส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดสัญชาติเมียนมา พร้อมยาบ้า 42,000 เม็ด ได้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร และอีกคดีเป็นการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติดอีก 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดรายสำคัญ ที่หลบหนีการจับกุมไปอาศัยอยู่ใน จ.เพชรบูรณ์ พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ เป็นบ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง และรถยนต์อีก 2 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 10 ล้านบาท

ทั้งนี้ พล.ต.อ.มนู ระบุว่า จะเน้นการขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด ไปยังกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง โดยจะมีการยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ให้ได้ทุกราย ซึ่งเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ได้ผล ช่วยลดความเคลื่อนไหวของขบวนการค้ายาเสพติดให้น้อยลงได้