ลุงพล ยืนยันไม่ได้หากินกับ "น้องชมพู่" ระบุไม่กังวลที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับ และหากบริสุทธิ์จะเอาผิดผู้ที่เคยกล่าวหาเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง

วันนี้ "ลุงพล" กลับจากบ้านหมอปลา มือปราบสัมภะเวสี ที่จังหวัดเพชรบุรี มาถึงบ้านกกกอก อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร โดยเช่นเดิม คือยังมีแฟนคลับจากจังหวัดต่างๆ ทยอยเดินทางเข้าให้กำลังใจ มีการผูกข้อแขนรับขวัญ ลุงพล - ป้าแต๋น ตามประเพณีของคนอีสาน

บางส่วนเดินทางมาไกลจากจังหวัดจันทบุรี บอกว่า ติดตามข่าวมาตลอด และตั้งใจมาวันนี้ก็เพื่อให้กำลังลุงพล ให้ผ่านพ้นเรื่องราวไม่ดีไปให้ได้ และต่างเชื่อว่า "ลุงพล" เป็นคนดี และขอให้ความดีชนะทุกอย่าง

ส่วน "ลุงพล" วันนี้ไม่มีภาระนอกสถานที่ อยู่บ้านดูแลช่างที่กำลังต่อเติมครัวข้างบ้าน ซึ่งบ้านของลุงพล ขณะนี้ก็เกือบจะเสร็จ 100 เปอร์เซ็นแล้ว โดย "ลุงพล" บอกว่า หากเสร็จเรียบร้อยก็จะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณหน้าบ้าน เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่วันนี้ "ลุงพล" นั่งพูดคุยเปิดใจกับคุณจุฑารัตน์ บุบผา ผู้สื่อข่าวช่อง 8 เกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เริ่มจากประเด็นแรก ที่มีข่าวลือหนาหูว่า ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ "ลุงพล" ยืนยันว่า ไม่มีความกังวลใจว่าหวยจะมาออกที่ตัวเอง เพราะมั่นใจว่าหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจเก็บรวบรวมไปก่อนหน้านี้ ทั้งถุงมือ กระเป๋า ขนสุนัข และอื่นๆ ไม่น่าจะมีความเชื่อมโยงได้ แต่ตราบที่คดียังไม่จบ ก็ยอมรับว่า มีบางคืนที่นอนไม่หลับ เพราะยังคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องนี้

ประเด็นที่ 2 หากหวยออกที่ลุงพล ทำให้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี เตรียมแนวทางต่อสู้คดีไว้หรือไม่ ลุงพล ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เตรียมการอะไร และก็ยังไม่ได้จัดหาทีมทนายความตามที่เคยให้ข่าวกับช่อง 8 ไว้ โดยยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปหารือกับทีมทนายความ ไม่เป็นความจริง เป็นการพูดเลี่ยงเพื่อจะพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนที่บ้านหมอปลา ที่จังหวัดเพชรบุรี เท่านั้น

แต่หากผลสรุปออกมาว่า "ลุงพล" เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับการตายของน้องชมพู่ ก็มีแนวคิดที่จะหารือกับนักกฎหมาย เพื่อเอาผิดกับผู้ที่เคยกล่าวหา เพราะมองว่าถึงแม้ตัวเองจะเป็นคนจน แต่ก็มีศักดิ์ศรี

ประเด็นที่ 3 เรื่องการใช้ชีวิต ที่เชื่อว่าหลายคนมีความคลางแคลงใจ ที่ "ลุงพล" กลายเป็นคนดังที่มีคนรู้จักทั่วประเทศ มีงานบันเทิงติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ หลังการตายของหลานสาว "ลุงพล" บอกว่า สุดท้ายตัวเองกับครอบครัวต้องกลับไป ทำไร่ ทำนา ตามเดิม ส่วนงานบันเทิง มองว่า เป็นโอกาสดีดีที่เข้ามาในชีวิต ที่พอจะทำให้มีรายได้ชดเชยในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่หลังตกเป็นผู้สงสัย ก็ไม่ได้ทำงานอะไร  แต่การรับงานต่างๆ จะพิจารณาจากความเหมาะสม โดยคำนึงถึงจิตใจของครอบครัวน้องชมพู่เป็นหลัก ซึ่งงานที่เข้ามาตอนนี้ ที่ชัวร์ๆ ก็มีอยู่ประมาณ 5 งานเท่านั้น คืองานจากคุณอุ๊บ - วิริยะ 4 งาน และงานร้องเพลงร่วมกับจินตหรา พูนลาภ ในพิธีบวงสรวงพญาเต่างอย วันที่ 1 กันยายน

ลุงพล ยืนยันว่า ไม่ได้หากินกับการตายน้องชมพู่ สิ่งที่ตัวเองได้รับเป็นผลจากความดี ที่ทำให้คนสงสารและเห็นใจ ด้วยนิสัยคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งกัน จึงเดินทางมาให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือ พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเปิดบัญชีรับบริจาค และตอนนี้เงินในบัญชีก็มีเงินอยู่ประมาณ 4-5 หมื่นบาทเท่านั้น

สุดท้ายลุงพล บอกกับผู้สื่อข่าวช่อง 8 ว่า ตอนนี้อยากได้ความชัดเจนจากตำรวจว่าคดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว มีใครตกเป็นผู้ต้องสงสัย และมีพยานหลักฐานใดบ้าง ส่วนตัวยังพร้อมที่จะช่วยเหลือ อยากให้น้องชมพู่ ได้รับความยุติธรรม เช่นเดียวกันกับตัวเอง ที่จะต่อสู้จนถึงที่สุด เพื่อให้ได้ความยุติธรรม

ในฝั่งของครอบครัวน้องชมพู่ พ่อเเละแม่ กลับมาใช้ชีวิตตามปกติหลังทำบุญครบ 100 วัน การเสียชีวิตของน้อง วันนี้ได้พากันออกไปทำไร่มันสัมปะหลัง ที่บ้านมะนาว ก่อนจะกลับมาคุมช่างก่อสร้าง ที่กำลังต่อเติมทำห้องน้ำใหม่ หลังมีผู้ใจดีบริจาคเงินมาให้

ซึ่งทั้งพ่อ-แม่น้องชมพู่ ไม่ได้มีความกังวลใจอะไรในทางคดี และยังเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ

"ลุงพล" ยัน! ไม่ได้หากินกับการตาย "น้องชมพู่"