การเสียชีวิตสาว 18 ยังเป็นปริศนา แต่ก็มีข้อมูลว่า อาจเชื่อมโยงกับเรื่องยาเสพติด ซึ่งครอบครัวกลุ่มเพื่อนและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ข้อมูลที่ต่างกัน

คดีน้องดาว สาว 18 ปี เสียชีวิตที่บ้านญาติเพื่อนชาย ในจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว แต่ต้องรอผลชันสูตรอีกครั้ง

ปริศนาการเสียชีวิตครั้งนี้ หากย้อนไปข้อมูลจากกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างนายเต๋า เพื่อนของแฟนน้องดาว และเป็นคนขับรถเก๋งไปรับน้องดาว ให้ข้อมูลว่า ในวันเกิดเหตุพบว่า น้องดาวนั่งดมยาอย่างหนัก จนตัวเขานั้นตกใจ ขณะนั้นก็มีคนนั่งดมยาด้วย แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร

กระทั่งน้องดาว มีอาการเมายา ขอให้นายพัฒน์แฟนพาไปนอนที่บ้านเกิดเหตุ โดยนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไป ไม่นานเขาก็กลับบ้าน ทราบอีกครั้งว่าน้องดาว เสียชีวิตเพราะมีคนโทรศัพท์มาบอก ยืนยันไม่มีใครทำอะไรน้องดาว

เมื่อย้อนดูเฟซบุ๊กของน้องดาว เคยโพสต์ภาพและข้อความที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เช่น 19 พฤษภาคม เป็นภาพหญิงวัยรุ่น 2 คนสูดดมยา พร้อมข้อความ "เติมตลอด ปอดวิเศษ" โดยมีเพื่อนเข้ามาแสดงความเห็นว่าให้พักบ้าง ในขณะที่สาว 18 ตอบกลับว่า ว่า "555 กลัวอะไร"

13 เมษายน โพสต์ข้อความว่า "ถ้าวันนี้ไม่มีที่เล่นน้ำ ใส่เสื้อลายดอก พกหลอดมาห้องเราได้นะ" พร้อมติดสติ๊กเกอร์รูปอมยิ้มเช่นเดิม

และ 14 มีนาคม โพสต์ข้อความว่า "เจ็บจมูกจนเลือดออก" ซึ่งก็มีเพื่อนมาแสดงความเห็นว่า "ดมเยอะก็งี้" สาว 18 ตอบกลับว่า "ไม่เคยดม เป็นคนดี" เพื่อนคนเดิมก็ยังตอบกลับว่า "สาบานก็ตายฟรี"

อีกด้านพ่อน้องดาว ให้ข้อมูลว่า ลูกสาวเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง เฮฮา ไม่เคยทราบมาก่อนว่าลูกติดยาเสพติดหรือไม่ เพราะขณะอยู่บ้านไม่เคยแสดงอาการผิดปกติ หรือมีอาการผอมโทรม เหมือนคนติดยาทั่วไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามมองว่า การที่กลุ่มเพื่อนเห็นน้องดาวอยู่ในอาการที่จะเสียชีวิต ก็ควรนำส่งโรงพยาบาล ไม่ใช่ปล่อยให้นอนเสียชีวิตบนโซฟาเช่นนั้น

ซึ่งถ้าเทียบข้อมูลระหว่างนายเต๋าและพ่อน้องดาว จะเห็นว่าภาพลักษณ์ที่ทั้งสองเห็นจากน้องดาวนั้นเป็นคนละมุมกัน

เพื่อนสนิทชั้น ม.6 โรงเรียนในตัวเมืองกาญจนบุรี เล่าว่า ปกติน้องดาวเป็นคนหัวดี เป็นเด็กกิจกรรมรำไทยสวย อัธยาศรัยดี รู้จักคนมาก

นอกจากเพื่อนในโรงเรียนแล้วก็ยังคบเพื่อนรุ่นพี่สายปาร์ตี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเพื่อนกลุ่มนี้ใช้ยาเสพติดหรือไม่ ส่วนนายพัฒน์ที่ถูกระบุว่าเป็นแฟนนั้น น้องดาวไม่เคยเล่าให้ฟังว่าคบหา อาจเป็นเพราะว่าหลังเรียนจบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ก็ต่างแยกย้ายกันไป

ส่วนภาพที่น้องดาวโพสต์ในเฟซบุ๊กคล้ายยาเสพติดนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นการโพสต์ตามประสาวัยรุ่น แต่ก็เคยเตือนว่าหากโพสต์เช่นนั้นอาจถูกมองไม่ดีได้

โดยน้องดาวเองที่ผ่านมา หากจะซื้ออะไรก็จะทำงานเสริฟร้านกาแฟเพื่อหาเงินซื้อเอง แต่หลังเรียนจบก็ทราบว่าไม่ได้ทำ ในขณะที่ฐานะทางบ้านยากจน จึงไม่เชื่อว่าน้องดาวจะมีเงินซื้อยาหรือเตรียมยาไปเอง และ ไม่เชื่อว่าเพื่อนจะเสพยาจนเกินขนาดกระทั่งเสียชีวิต

ด้านนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ระบุว่า กรณีนี้ต้องรอผลชันสูตร

แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอผู้เสพยาเคตามีนแบบโอเวอร์โดส หรือ รับยาเสพติดเกินขนาด จนเสียชีวิต แต่ยาเคนั้นมักถูกใช้เพื่อความบันเทิง หรือ ตามงานปาร์ตี้ ปกติออกฤทธิ์กับประสาทส่วนกลาง หากนำไปใช้ร่วมกันกับเหล้า จะกดการหายใจ ทำให้หายใจไม่สะดวก และเป็นตัวกระตุ้นจนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้

ด้านคดีวันนี้ชุดสืบสวนได้ร่วมประชุมวางแนวทางคดี โดยพลตำรวจตรีวรณัน สุขเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ระบุขณะนี้ข้อมูลที่บางสื่อรายงาน เป็นเพียงคำบอกเล่าของกลุ่มคนในที่เกิดเหตุ ซึ่งยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยง ทำให้ยังไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย

ส่วนประเด็นที่มีรายงานว่า นายพัฒน์ ที่เป็นแฟน ยอมรับว่าล่วงละเมิดน้องดาวนั้น ก็เป็นข้อมูลจากปากคำ แต่ยังต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสต์ประกอบด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าน้องดาวเสียชีวิตจากอะไร หรือถูกล่วงละเมิดจริงหรือไม่ รวมถึงประเด็นที่ว่า ขณะถูกล่วงละเมิดนั้นน้องดาวเสียชีวิตแล้วหรือไม่

แต่เชื่อว่า เงื่อนเวลาการเสียชีวิตน่าจะอยู่ในช่วง 1 นาฬิกาถึง 6 นาฬิกา เพราะจากคำให้การของพยานบอกว่า น้องดาวซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับนายพัฒน์ไปบ้านยายในช่วง 1 นาฬิกา จากนั้นนายพัฒน์กลับไปนอนบ้านตัวเองและกลับมาอีกครั้งช่วง 6 นาฬิกา และอ้างว่าน้องดาวเสียชีวิตแล้ว

คดีน้องดาวถือว่ามีความคล้ายกับคดีลัลลาเบล ทั้งการอยู่ร่วมปาร์ตี้กับกลุ่มคน ซึ่งมีการดื่มสุรา มีประเด็นเรื่องการใช้สารเสพติดเกี่ยวข้องและประเด็นที่เชื่อว่าอาจถูกล่วงละเมิด โดยไม่รู้ว่าเสียชีวิตหรือไม่ ไม่พบร่องรอยทำร้ายร่างกาย และเสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว

งทั้งหมดยังเป็นคำกล่าวอ้างของพยานที่ต้องรอผลชันสูตรมาประกอบ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์