ตำรวจแจ้ง 10 ข้อหา "พ.ต.ท.บรรยิน" คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา เตรียมส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง

(8 พ.ค. 2563) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการดำเนินคดี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวกรวม 6 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ก่อนนำศพไปเผาอำพรางในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา

โดย พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนคดีดังกล่าวแล้วเสร็จสมบูรณ์ และจะมีการส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการในวันนี้ หลังก่อนหน้านี้ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ จนแล้วเสร็จ โดยมีการสอบปากคำพยาน 111 คน สอบปากคำผู้ต้องหา 6 คน สรุปสำนวนคดี 11 แฟ้ม จำนวนรวม 4,259 หน้า พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.บรรยิน และพวกรวม 6 คน 9 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นซ่องโจรโดยเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิด, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเพื่อปกปิดความผิดอื่นหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นคดีอาญาในความผิดอื่นที่ได้กระทำไว้, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ, ร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่ทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดี และร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานด้วยการสวมเครื่องแบบเครื่องหมายเจ้าพนักงาน โดยที่ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ และเพิ่มเติมอีกข้อหาสำหรับ พ.ต.ท.บรรยิน ฐานสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายเจ้าพนักงาน

พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามแม้ว่า พ.ต.ท.บรรยิน และพวกอีก 4 คน ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น มีผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุเพียงรายเดียวที่ให้การรับสารภาพ แต่ก็ไม่ได้เป็นกังวลแต่อย่างใด เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี อีกทั้งคำให้การของผู้ต้องหาบางรายยังสอดคล้องกับหลักฐานที่ตรวจพบ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิด พ.ต.ท.บรรยิน และพวก ได้อย่างแน่นอน

ส่วนกรณีการตรวจสอบว่า นางวราภร ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น จากหลักฐานที่พบในขณะนี้ยังไม่พบ เพียงแต่เป็นเจ้าของที่ดิน สถานที่ที่ผู้ต้องหานำศพไปเผาอำพรางเท่านั้น ส่วน พี่ชายของ พ.ต.ท.บรรยิน เจ้าของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พบว่าเป็นเพียงการให้ยืมโดยบริสุทธิ์และไม่ทราบว่าจะมีการนำไปใช้กระทำผิด จึงยังไม่เพียงพอที่จะเอาผิดกับทั้งสองคนนี้ได้