ซาฟารีเวิลด์ ยืนยันสาเหตุการตายของยีราฟ เกิดจากจมน้ำ ไม่เกี่ยวยากับถูกยิงยาสลบ พร้อมเตรียมประชุมหารือเพื่อวางมาตรการไม่ให้เกิดเหตุสูญเสียซ้ำ

นายฤทธิ์ คิ้วคชา กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัทซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายดวง คิ้วคชา ผู้จัดการสำนักวิจัยและอภิบาลสัตว์ สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ แถลงกรณีที่ยีราฟ 2 ใน 78 ตัว ของสวนสัตว์ หลุดออกมาจากกรงรถบรรทุกหกล้อ ระหว่างขนส่งจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสถานที่เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ ที่จังหวัดปราจีนบุรี ก่อนมียีราฟตาย 1 ตัวอยู่ในบ่อบัว อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา 

นายสัตวแพทย์ อนุวัฒน์ วัฒนนรเศรษฐ์ สัตวแพทย์ประจำบริษัทซาฟารีเวิลด์ ระบุว่า ยีราฟที่ตายเป็นเพศผู้ อายุ 3-4 ปี น้ำหนัก 400 กิโลกรัม สูง 3 เมตร มีน้ำเต็มปอด จึงสรุปได้ว่าเกิดจากการจมน้ำ สภาพร่างกายไม่พบร่องรอยบาดเจ็บ พร้อมทั้งยืนยันว่า ยาสลบที่ใช้ยิงไปนั้น ไม่มีผลที่ทำให้ยีราฟตาย 

ส่วนยีราฟที่มีคลิปคล้ายถูกรถจักรยานยนต์เข้าใกล้ จนยีราฟตกใจวิ่งเตลิด ไม่ใช่ยี่ราฟตัวที่ตาย จากการตรวจร่างกายไม่พบร่องรอยบอบช้ำ เชื่อว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ไม่ได้เฉี่ยวชน 

ขณะที่ นายฤทธิ์ ยืนยันว่า การขนส่งครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานขนย้ายสัตว์ใหญ่ที่ทางคู่ค้าเป็นคนดูแล ตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเมื่อเครื่องลงทางซาฟารีเวิลด์ และผู้ขายจะร่วมกันรับผิดชอบ ขนส่งไปยังปลายทางที่จังหวัดปราจีนบุรี 

ครั้งนี้ถือเป็นการขนสัตว์ล็อตใหญ่ มียีราฟถึง 78 ตัว และม้าลายอีก 60 ตัว โดยยีราฟและม้าลาย ถูกบรรจุภายในกล่อง กล่องละ 2 ตัว โดยไม่มีการวางยาสลบระหว่างเดินทาง 

หลังจากนี้จะต้องไปหารือกับคู่ค้าในเรื่องการขนส่งลำเลียงสัตว์ ต้องเพิ่มมาตราการเข้มงวดมากกว่าเดิม เพราะ การตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า การหลุดจากกรงของยีราฟ น่าจะเกิดจากตัวกลอนที่ล็อคกรง ถูกรถโฟล์คลิฟท์กระแทก ขณะขนกรงจากตัวเครื่องลงมาที่รถบรรทุก ส่วนตัวไม่อยากโทษใคร เพราะ เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ทางสวนสัตว์เองก็เสียใจ และ ไม่สามารถประเมินค่ายีราฟที่ตายได้ 

ด้านนายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 จังหวัดชลบุรี ยืนยันว่ากระบวนการขออนุญาต และ นำเข้ายีราฟเป็นไปอย่างถูกต้อง และเชื่อได้ว่า ยีราฟตกลงไปด้วยความตกใจและไม่สามารถพยุงตัวลุกขึ้นได้ ก่อนจะตาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย