กทม. เพิ่มจุดกวดขันจับปรับรถจักรยานต์ยนต์ที่จอด หรือขับขี่บนทางเท้าเพิ่มเป็น 233 จุด พร้อมเพิ่มอัตราค่าปรับอีกเท่าตัว หากชนคนปรับสูงสุด 5 พันบาท อนาคตวางแผนติดวงจรปิดมีความผิดเจอส่งภาพพร้อมใบค่าปรับไปถึงบ้าน

วันที่ 29 พ.ย. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรียกประชุมหัวหน้าเทศกิจทั้ง 50 เขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อหาแนวทางในการเข้มงวดกวดขันการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือจอดรถบนทางเท้า

โดยนายสกลธี เปิดเผยว่า กทม. มีมติเพิ่มจุดกวดขันห้ามจอดรถ และขับขี่รถบนทางเท้าเพิ่มอีก 118 จุด ทำให้ตอนนี้มีจุดกวดขันห้ามจอดรถ หรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าทั้งหมด 233 จุด และมีการเพิ่มอัตราค่าปรับให้สูงขึ้นจากเดิม 500 บาท เป็น 1,000 บาท ซึ่งหากเป็นเด็กเยาวชน จะให้เชิญผู้ปกครองมารับทราบว่าลูกมีการกระทำความผิด และหากไม่มีเงินในการเสียค่าปรับจะยึดรถไว้ก่อน จนกว่าจะมาชำระค่าปรับ ซึ่งหากผู้ขับขี่ขับบนทางเท้า และไปรถชนผู้ใช้ทางเท้าได้รับบาดเจ็บจะถูกปรับในอัตราสูงสุด คือ 5,000 บาท เพื่อป้องปรามและป้องกันไม่ให้คนกระทำความผิดซ้ำอีก

พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่กวดขันตามจุดต่างๆ ในช่วงเช้าเวลา 8.00-9.00 น. และช่วงเย็นเวลา 16.00-19.00 น. โดยเฉพาะบริเวณหน้าสถานศึกษาที่มักจะมีผู้ลักลอบจอดรถรับส่งบุตรหลาน ซึ่งได้รับการร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก สำหรับแนวทางการกวดขันทั้งหมดจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่วนกรณีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างอาจจะตัดพื้นที่ทางเท้าบางส่วนเป็นจุดรับส่งผู้โดยสาร เพื่อย้ายวินจักรยานยนต์ลงไปเพื่อไม่ให้เป็นข้ออ้างในการขึ้นมาขับขี่หรือจอดบนทางเท้า

นอกจากนี้ในอนาคตอาจมีการนำกล้องวงจรปิดมาใช้ในการกวดขันการกระทำความผิด และส่งภาพพร้อมใบค่าปรับไปให้ที่บ้านพักผู้กระทำความผิด คล้ายใบสั่งออนไลน์ของตำรวจ

สำหรับสถิติการจับกุมตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม ถึง 26 พฤศจิกายน 2561 สำนักเทศกิจได้จับกุมผู้กระทำผิดที่ขับขี่ หรือจอดรถจักรยานยนต์ และรถยนต์บนทางเท้าจำนวน 10,776 คน ในจำนวนนี้ได้ตักเตือนไป 3,445 คน และดำเนินคดีแล้ว 7,103 คน และอยู่ระหว่างดำเนินคดี 228 คน โดยมียอดค่าปรับเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท