ผอ.เขตบางคอแหลม กราบขอขมาเจ้าอาวาสวัดไทร ยันวัดตีระฆังต่อได้ หลังลูกบ้านคอนโดหรูร้องเรียนเสียงดังจนนอนไม่หลับ และทางสำนักงานเขตได้ออกหนังสือเตือนให้วัดลดเสียงเคาะระฆัง หรือเลื่อนเวลาการตีระฆังออกไป จนกลายเป็นกระแสข่าวดังชั่วข้ามคืน

นายอนันต์ กายพรรณ ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม เดินทางเข้าหารือ และ กราบขอขมา พระอธิการปรีชา ปุณณสีโล เจ้าอาวาสวัดไทร หลังก่อนหน้านี้ทางเขต ได้ออกหนังสือขอความร่วมมือให้วัดลดระดับเสียงการตีระฆัง เพราะมีผู้ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียม ร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อน นอนไม่หลับ อ้างว่าวัดตีระฆังช่วงตี 3 ตี 4

ซึ่งจากการพูดคุยกับจากสำนักงานพุทธศาสนา และนิติบุคคลของคอนโดดังกล่าว มีมติให้วัดทำกิจของสงฆ์ได้ตามปกติ ตีระฆังตามประเพณีได้ดังเดิม

ส่วนกรณีผู้พักอาศัยในคอนโดมิเนียมที่ร้องเรียน ทราบว่ามีเพียงไม่กี่คน ซึ่งเขตได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าชี้แจงทำความเข้าใจแล้ว

มีรายงานว่า ผู้ที่ร้องเรียนน่าจะมีเพียงรายเดียว เป็นหญิงเจ้าของห้อง  ซึ่งปล่อยห้องให้ชาวต่างชาติเช่า เมื่อมีการตีระฆังชาวต่างชาติก็โทรไปบอกเจ้าของห้อง นำมาสู่การร้องเรียนดังกล่าว

คุณกานต์สินี สิทธิโชติพงศ์ ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่บริเวณคอนโด พูดคุยกับนายณัฐวุฒิ วิบูลย์พัฒนวงษ์ หนึ่งในผู้อาศัย ระบุว่า อยู่มา 2 ปีแล้ว ไม่เคยได้ยินเสียงระฆังวัด หรือเสียงใดๆ ที่มาจากวัด และไม่เคยได้ยินการร้องเรียนในกลุ่มไลน์ของคอนโด รู้สึกเห็นใจวัด และเกรงใจวัดเพราะทราบดีว่าต้องทำตามประเพณี

เช่นเดียวกับ นายวิบูลย์ สื่อวีระชัย ที่เพิ่งซื้อคอนโดดังกล่าวเพียง 2 เดือน บอกว่า ยังไม่ได้เข้ามาอาศัยอยู่จริงจัง แต่ยอมรับรับว่ารู้สึกเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่หากเลือกที่จะซื้อคอนโดที่ติดกับวัด ก็ควรที่จะปรับตัวอยู่ให้ได้

ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนวัดไทร ต่างยืนยันว่า อาศัยอยู่ใกล้วัดไทรตั้งแต่บรรพบุรุษ ร่วม 100 กว่าปี ไม่เคยมีปัญหาหรือรู้สึกรำคาญใจกับเสียงระฆัง

นางสมบูรณ์ เรืองเดช วัย 70 ปี ที่เกิดและโตที่นี่ บอกกับทีมข่าวว่า รู้สึกดีที่ได้ยินเสียงระฆังตีด้วยซ้ำ เพราะเป็นการปลุกให้ตื่นในตอนเช้ามาทำมาหากิน และระยะเวลาที่ตีก็เพียง 10-15 นาทีเท่านั้น

เช่นเดียวกับนายไพบูลย์ วิธูรจิตร อายุ 70 ปี บอกว่า ไม่คิดว่าเสียงระฆังดังเกินจนทำความรำคาญ ประกอบกับเสียงระฆังอยู่สูง จึงก้อง ไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงใดๆ

ขณะที่เจ้าอาวาสวัดไทร ยืนยัน หากให้พระงดตีระฆัง ก็คงทำไม่ได้ เนื่องจากเป็นประเพณีที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และระฆังใหญ่ที่ตี วัดตีเฉพาะช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น ไม่ได้ตีเป็นประจำ แต่จากการพูดคุยปัญหานี้จบแล้ว ซึ่งทางนิติบุคคลรับว่าจะหาทางป้องกันเอง เช่นปิดหน้าต่าง หรือ ติดตั้งสิ่งป้องกันเสียง

ทางด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหนคร ได้ไปพบเจ้าอาวาสวัดไทร เพื่อชี้แจงว่าไม่ได้สั่งห้ามทางวัดตีระฆัง และได้ให้ทางผู้อำนวยการเขตบางคอแหลมเชิญตัวผู้ร้องเรียนเรื่องเสียงระฆังมาพบ เพื่อจะชี้แจงด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าฯกทม.ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อชี้แจงถึงจุดยืนของ กทม.ต่อกรณีนี้ว่า

ได้คุยกับผู้อำนวยการบางคอแหลม และผู้อำนวยการเขตทุกเขต ให้เข้าใจในสิ่งสำคัญสองอย่างคือ คือ วัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณ และวิถีชีวิตของคนเมือง ซึ่งทั้งสองอย่างมันสามารถไปด้วยกันได้

ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ผมได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลมไปกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดไทร เพราะท่านเจ้าอาวาสบอกว่าจะหยุดตีระฆังเลย แต่เราก็บอกว่าไม่ได้ ไม่ต้องหยุดตี แค่ตีให้เบาลง เพราะเป็นวัฒนธรรมที่ทำมาแต่โบราณ

นอกจากนี้ผมได้สั่งการให้เขตไปวัดค่าความดังของเสียงตีระฆังเพื่อจะตรวจสอบผลกระทบ แต่คิดว่าไม่น่าจะเกินค่ามาตรฐานครับ