ตำรวจตามจับ "เสธ.บอย" อดีตทหารอากาศ คนสนิทของผู้ต้องหา ค้าไม้เถื่อนข้ามชาติได้แล้ว หลังพบมีชื่อเป็นผู้เช่าโกดัง ซุกซ่อนไม้แปรรูปผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 36 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฎิเสธ
หลังจากเจ้าหน้าที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนธิกำลัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกค้นโกดังต้องสงสัย ซุกซ่อน ไม้แปรูปผิดกฎหมาย พื้นที่ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ กระทั่งยึด ไม้ของกลาง ทั้ง ไม้พะยูง ไม้ชิงชัน ไม้มะค่า และไม้แดง มูลค่ากว่า 36 ล้านบาท และ จับแรงงานเมียนมาได้ 4 คน ครวจสอบพบ ชื่อ อดีตนายทหารยศ "พลอากาศตรี" เป็นผู้เช่าโกดัง
ล่าสุด ตำรวจภูธรบางปู คุมตัว พลอากาศตรี สุรชัย คงเทศ หรือ เสธ.บอย อายุ 63 ปี อดีตนายทหารอากาศ ผู้ต้องหาตามหมายจับ มาสอบสวน หลังบุกไปรวบตัว ได้ที่บ้านพักส่วนตัว ในจังหวัดสมุทรปราการ มีของกลางเป็น เอกสารการติดต่อซื้อขายไม้ผิดกฎหมายจำนวนมาก เบื้องต้น ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธ
ขณะที่ พันตำรวจเอก ประวิทย์ บุญธรรม ผู้กำกับการภูธรบางปู กล่าวว่า ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานการเชื่อมโยงของ ขบวนการค้าไม้ผิดกฎหมาย พบว่า เสธ.บอย มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การเช่าโกงดังดังกล่าว และ ยังเป็น อดีตสามี ของ นางชลิดา สุพันธมาส หรือ มู่หลาน อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาชาวจีน ที่เป็นนายทุน ลักลอบค้าไม้แปรรูปส่งออกผิดกฎหมายด้วย
จากการ ตรวจสอบเอกสารที่พบในบ้านพัก พบรูปถ่ายคู่กับ นางมู่หลาน จึงได้ยึดบัญชีธนาคารต่าง ๆ พร้อมสมุดเช็ค เอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ
เบื้องต้น แจ้งข้อหา ร่วมกันแปรรูปไม้ ตั้งโรงค้าไม้แปรรูป ในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไม้พะยูง ไม้ชิงชันอันยังไม่ได้แปรรูปฯ ร่วมกันทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต มี ผลิต หรือนำเข้า เลื่อยโซ่ยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นผู้ต้องหา ยื่นเงินสด 5 แสนบาท ขอประกันตัวออกไป
ขณะที่ พลตำรวจตรี ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการ ปทส. บอกถึง ความคืบหน้าการตรวจยึด ตู้คอนเทนเนอร์ สำแดงเท็จ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี และพบ ไม้ประดู่ ซุกซ่อน กว่า 100 ท่อน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเตรียมส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นของ ขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ ของ นางชลิดา หรือ มู่หลาน ว่า ได้ประสาน ตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อติดตามจับกุมตัว นางมู่หลาน ผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว คาดว่า ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย แต่ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบอีกทาง จากข้อมูล พบว่า นางมู่หลาน เกี่ยวข้องกับคดีบุกจับโกดังไม้เถื่อน ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท เมื่อปี 2558 ด้วย
ทั้งนี้ จากการสอบสวน แรงงานชาวเมียนมา ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ให้การว่า นางมู่หลาน จะเป็นคน สั่งการขนย้ายไม้ไปตามที่ต่างๆ เมื่อนำชื่อไปตรวจสอบกับ กรมการปกครอง พบว่า ชื่อ นามสกุลของ นางมู่หลาน ถูกจำหน่ายออกจากระบบทะเบียนราษฎรแล้ว จึงสงสัยว่า สวมทะเบียนบัตรประชาชนคนอื่นหรือไม่ ขณะนี้ กรมการปกครอง ได้ตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้ว