เจ้าหน้าที่เร่งวางแผนไล่ต้อนผลักดันโขลงช้างจากป่าเขาอ่างฤาไน กว่า 70 ตัว ที่พากันออกมาหากินนอกพื้นที่ แล้วไม่ยอมกลับเข้าป่า ทำให้ชาวบ้าน ต.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา
นายบุญเลิศ ผิวพรรณ์ หัวหน้าชุดติดตามช้างป่าอำเภอท่าตะเกียบ พร้อมเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ร่วมกันวางแผนไล่ต้อนผลักดันโขลงช้าง จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ออกมาหากินนอกพื้นที่แล้วสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน และ สร้างความเสียหายกับผลิตทางการเกษตรแล้วไม่ยอมกลับเข้าป่า
โดยช่วงเย็นจะพากันออกจากป่าชุมชน บริเวณเขานางหร่อง เขาไผ่ เขาดิน และ ป่าชุมชนพ่อกำนัน ซึ่งอยู่ด้านหลังสำนักสงฆ์วัดคลองมะหาด พื้นที่ หมู่ 14 ตำบลท่าตะเกียบ ก่อนจะแตกโขลง 10-20 ตัว พากันออกหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน
ทั้งนี้ เมื่อโขลงช้างป่ารู้ว่าถูกไล่ต้อนผลักดัน จึงกระจายออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 20-50 ตัว แล้วพากันเดินหนีเสียงระเบิดลูกบอลที่เจ้าหน้าที่จุดใส่เพื่อไล่ต้อนเดินข้ามถนนสายบ้านหนองปรือกันยาง-บ้านอ่างเสือดำเข้าไปในป่าปาล์ม ป่าด้านหลังสำนักสงฆ์หลวงปู่เณร และบริเวณด้านหลังเขายายซิ้ม ทำให้เป็นอุปสรรคในการติดตามไล่ต้อนผลักดัน ประกอบกับเริ่มค่ำ และ มีฝนตกลงมา ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงทำได้เพียงเฝ้าติดตามดูเท่านั้น พร้อมหามาตรการผลักดันให้กลับคืนป่าอ่างฤาไน ต่อไป
สอบถาม นาย น้อม พรมเสือ อายุ 65 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 บ้านหนองปรือกันยาง ตำบลท่าตะเกียบ และ เป็นจิตอาสาที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯ ไล่ต้อนช้างป่า บอกว่า ช้างป่าเป็นสัตว์ที่แสนรู้ เพราะ นอกจากหัวหน้าโขลงที่คอยคุมเชิงแล้ว ยังมีช้างคอยเดินหน้า เดินตามหลัง และ ขนาบข้างเพื่อดูแลโขลงช้าง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอ่านพฤติกรรม นิสัย และอารมณ์ของช้างขณะนั้น
โชคดีที่ช้างป่าโขลงนี้ มีนิสัยไม่ดุร้าย แต่ก็ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะช้างที่มีลูกอ่อน หรือว่า ตั้งท้อง ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะ ช้างเองก็ต้องต่อสู้เพื่อหาอาหารกิน ทำให้การไล่ต้อนผลักดันช้าง จึงเป็นงานที่ยาก และ เสี่ยงอันตรายมากๆ