ตำรวจดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหายกแก๊ง ในคดีล่อลวงเด็กหญิงชาวลาวอายุ 13 ปี ไปล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อแลกกับหนี้ค่ายาเสพติด ที่ จ.ตรัง โดยเฉพาะชาย 2 คนที่ก่อเหตุ ถูกดำเนินคดีข้อหาหนัก

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และตำรวจภูธรปะเหลียน จังหวัดตรัง สอบสวนผู้เกี่ยวข้องและผู้ต้องสงสัย คดีที่แม่ของเด็กหญิงชาวลาวอายุ 13 ปี เข้าแจ้งความว่า ถูกลูกชายของนายจ้าง ซึ่งเป็นเจ้าของแปลงเพาะกล้ายางพารา และเป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง ในตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน

ล่อลวงพาลูกสาวไปให้ชายคนหนึ่งล่วงละเมิดทางเพศ แลกกับหนี้ค่ายาเสพติด จนตนเองและสามีต้องออกจากงาน พาลูกเร่รอน

พันตำรวจเอกทรงเกียรติ ทองสง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปะเหลียน เปิดเผยว่า ตำรวจได้คุมตัวและดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหายกแก๊งครบทั้ง 5 คน ที่ตั้งวงเสพยาเสพติดในวันเกิดเหตุ

คือ นายวิทยา หรือ เบส ลูกชายเจ้านายจ้าง นายเบิร์ด ผู้ลงมือล่วงละเมิดทางเพศ นายวิทวัตร หรือ บังมัด นางสาวบุษบา หรือ นิ่ม และนางปวีณา ชูแก้ว หรือ หญิงอ้วน

นายเบิร์ด บังมัด นิ่ม และ หญิงอ้วน 4 คนนี้ ถูกตำรวจจับพร้อมยาบ้าเกือบร้อยเม็ด เมื่อวันที่ 22 มกราคม โดยนายเบิร์ด และ บังมัด ถูกดำเนินคดียาเสพติด ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรัง

ส่วนนิ่ม และ หญิงอ้วน สอบสวนพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการหลอกเด็กหญิงไปล่วงละเมิดทางเพศ จึงถูกตั้งข้อหาเสพสารเสพติดและส่งตัวไปเข้ารับการบำบัด

ล่าสุด ผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ จากผู้เสียหายระบุชัดว่า เด็กหญิงชาวลาวถูกนายเบิร์ดล่วงละเมิดทางเพศจริง ตำรวจจึงอายัดตัว และแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี และข้อหาพรากผู้เยาว์ เพิ่มอีก 2 กระทง

ขณะที่นายวิทยา หรือ เบส อายุ 27 ปี ลูกชายนายจ้างที่นำตัวเด็กหญิงไปจากพ่อแม่ เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและเตรียมสู้คดี.

ดำเนินคดียกแก๊งหลอกเด็กหญิงชาวลาวล่วงละเมิดทางเพศ