พระมหาสีไพร อาภาธโร อธิบายวิธีตอกเส้นรักษาอาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หลังสังคมออนไลน์ แชร์คลิป และ เรียกร้องให้ตรวจสอบว่า เป็นอันตราย และ รักษาจริงหรือไม่ ล่าสุดสาธารณสุขสั่งปิดแล้ว หลังผู้รักษาไม่มีใบอนุญาต
ผู้สื่อข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่ อาคารอวตารคลินิก อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อตรวจสอบกรณี มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่คลิป พระสงฆ์ใช้ฆ้อนตอกแท่งไม้ บริเวณขาด้านของผู้หญิง ที่ป่วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มานาน 7 ปี ซึ่งหลังตอกเสร็จผู้หญิงคนดังกล่าว สามารถก้มและนั่งยองๆได้ คลิปดังกล่าว มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ
บริเวณด่านล่างเป็นจุดคัดกรองคนไข้ เสียค่าใช้จ่ายคนละ 300 บาท ส่วนชั้นที่ 2 ศูนย์รับตอกเส้น รักษาอาการเกี่ยวกับเส้นและกระดูก และ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผู้เข้ารับการรักษาหลายราย ไม่ต่ำกว่า 40 คน บางวันมาเป็นหลักร้อย หลังรับการรักษาทุกคนจะบอกว่ารู้สึกดีขึ้น
โดยมี พระมหาสีไพร อาภาธโร พระวัดเกษมสุริยันนาจ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ประธานมูลนิธิโพธิรังสี ตอกเส้น 2600 ปี คอยดูการรักษาอย่างใกล้ชิด ระบุว่า เริ่มศึกษาวิธีการรักษาด้วยการตอกเส้นด้วยตนเอง เนื่องจากป่วยโรคนี้ มาตั้งแต่เด็กเมื่อหาย จึงศึกษาเพิ่มเติมหาอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานมาใช้ในการรักษาโรคพร้อมถ่ายทอดความรู้ให้ผู้สนใจคนอื่นๆ จนปัจจุบันมีทั้งชาวไทย และ ชาวต่างชาติ สนใจเรียนตอกเส้นจำนวนมาก
โดยคลินิกแห่งนี้ พยายามยื่นเรื่องขอเปิดคลินิคตามเงื่อนไขของกระทรวงสาธารณสุขมาตั้งแต่ปี 2556 แต่ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากติดเงื่อนไข ต้องทำวิจัย ด้านการใช้แรงตอก ส่วนที่ยังเปิดรักษาเพราะอยากช่วยเหลือคนเจ็บป่วยให้มีทางเลือกในการรักษาโรค
ด้าน นายแพทย์ ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย ยืนยันว่า การตอกเส้นเป็นศาสตร์การแพทย์พื้นบ้าน ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการแพทย์แผนไทย แต่กรณีดังกล่าว ทำไม่ถูกต้องตามหลักวิชา อาจมีผลในต่อร่างกายในระยะยาว
ทางกรมการแพทย์แผนไทย และ แพทย์ทางเลือก เคยตักเตือนไปแล้วว่าเป็นอันตราย โดยผู้ที่ตอกเส้น ต้องไปขึ้นทะเบียน เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย และ ต้องขึ้นทะเบียนเปิดคลินิก จึงจะสามารถรักษาได้
ล่าสุดช่วงเย็น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และปากเกร็ด พร้อมด้วยตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบศูนย์ตอกเส้นดังกล่าว โดยสั่งให้หยุดรักษาทันที พร้อมขอตรวจสอบใบอนุญาตผู้ที่รักษา พบว่า ไม่มีใบอนุญาตให้ทำการรักษา จึงเชิญตัวทั้ง 5 คน ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด พร้อมยึดอุปกรณ์ไปด้วย ส่วน พระมหาสีไพร อาภาธโร ไม่ได้อยู่ที่ศูนย์ดังกล่าว
นายชาตรี พินใย นิติกรชำนาญการพิเศษ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ศูนย์ตอกเส้นดังกล่าว ผิด พ.ร.บ.การแพทย์แผนไทย มีจำคุก 3 ปีปรับ 60,000 บาท ล่าสุดตำรวจได้แจ้งข้อหา เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยโดยมิได้รับอนุญาต
ต่อมา พระมหาสีไพร ได้ยืนขอประกันตัวผู้ที่ถูกจับ 5 คน ด้วยเงินประกันคนละ 10,000 บาท
พระมหาสีไพร ได้เดินทางไปพบตำรวจพร้อมทั้ง เปิดเผยว่า เตรียมใจตั้งแต่แรก ที่เปิดรักษา ว่า ขาข้างหนึ่งอยู่ในคุก แต่ขาอีกข้างหนึ่ง อยู่บนความทุกข์ยากของประขาชนที่เจ็บป่วย ทำให้ตน ภูมิใจที่นำความรู้ที่ศึกษา ทั้งชีวิต ไม่ได้จบปริญญา ไม่ใช่แพทย์ ค้นคว้าด้วยตัวเอง ทำการรักษาตอกเส้นแบบนี้ และ เป็นผู้ค้นคว้าวิจัยเขียนหลักสูตรเพื่อยื่นสภาแพทย์แผนไทยให้รับรอง
ยืนยันว่า ตั้งใจทำให้ถูกกฎหมาย เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนช่วยเหลือคนเจ็บป่วย ไม่หวังเรื่องเงิน โดยหลังจากนี้ขอให้คนที่เจ็บป่วย ไปถามนายกรัฐมนตรี และ หน่วยงานที่รับผิดชอบ ว่า อยากให้ตนทำเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินหรือไม่ เพราะคนที่ถูกจับ ตั้งใจจิตอาสามาช่วยรักษาคนป่วย ให้คนที่เจ็บป่วยเดินไมได้มีชีวิตใหม่ ไม่ใช่ว่าผิดถูก มันอยู่ที่ว่า มองประโยชน์ของใครเป็นหลัก