เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพจิตประชาชน รอบโรงงานผลิตน้ำแข็ง ต.ราไวย์ จ.ภูเก็ต หลังเกิดก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล พบชาวบ้านจิตใจย่ำแย่ เพราะไม่เชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัย

นายอรุณ โสฬส นายกเทศบาล ตำบลราไวย์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อุตสาหกรรม จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่พบชาวบ้านรอบโรงงานผลิตน้ำแข็งและน้ำดื่ม ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ภายหลังเกิดเหตุ ก๊าซแอมโมเนียขนาด 2,000 ลิตร รั่วไหล
ภายในโรงงาน เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่ม คืนวันที่ 22ต.ค.ที่ผ่านมา ใช้เวลาควบคุมสถานการณ์นานกว่า 8 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา สถานการณ์จึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ซึ่งโรงงานดังกล่าวอยู่ใกล้ วัด ชุมชน กลิ่นจากก๊าซแอมโมเนีย เหม็น ทำให้ชาวบ้านที่สูดดม เกิดอาการแสบตาคอและจมูก เบื้องต้น จากการสอบถามชาวบ้าน พบว่า ยังมีอาการแสบตา และระบบทางเดินหายในประมาณ 40 คน แต่ส่วนใหญ่เกิดอาการเครียด เนื่องจากไม่มีมั่นใจเรื่องความปลอดภัย เพราะ ต้องสูบดมก๊าซแอมโมเนียอยู่เป็นประจำ

จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เด็ดขาด และ ยังพบว่าต้นใบที่ปลูกไม้ตามบ้านมีสภาพเหี่ยวเฉาด้วย

หลังจากนั้นได้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ ภายในโรงงานผลิตน้ำแข็ง เพื่อตรวจสอบ วาวล์ท่อใต้ถังแอมโมเนีย ที่รั่วไหลพบว่าอุดแล้ว แต่ยังไม่ได้ซ่อมแซมแก้ไข เจ้าหน้าที่ต้องสวมหน้ากากอนามัย และ ใช้พัดลมขนาดใหญ่เป่าอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากมีกลิ่นก๊าซแอมโมเนีย ยังลอยคลุ้งเหม็นอยู่พอสมควร

พร้อมได้ขอตรวจใบอนุญาติก่อสร้างโรงงาน เบื้องต้นพบว่าเดิมโรงงานดังกล่าว ขออนุญาติสร้างที่พักเมื่อปี 2545 ต่อมาได้ขอขยายต่อเติม หลังจากนี้ต้องไปดูว่า ทำถูกต้องตามที่ขออนุญาตหรือไม่ ขณะนี้ อุตสาหกรรม จ.ภูเก็ต สั่งปิดโรงงานชั่วคราว จนกว่าเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานจะตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยเสร็จสิ้น

ด้าน เจ้าของโรงงาน กล่าวเพียงสั่นๆว่า แก้ไขสถานการณ์ด้วยการอุดรูรั่วแล้วแต่ยังซ่อมแซมไม่ได้เพราะต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อน หากซ่อมแซมก็ต้องปล่อยแก๊ซแอมโมเนียภายในถังออกมาให้หมด ซึ่งจะต้องส่งกลิ่นเหม็นอีกครั้ง ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ขอให้สัมภาษณ์

ชาวบ้านรอบโรงงานผลิตน้ำแข็งสุขภาพย่ำแย่หลังแก๊ซแอมโมเนียรั่ว