รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี สั่งปิดโรงงานแห่งหนึ่ง ภายในจังหวัด 45 วัน หลังมีน้ำเสียจากบ่อบำบัดทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและไร่นา เสียหายรวม 3 อำเภอ

หลังมีภาพน้ำเสียจากบ่อบำบัดของโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเผยแพร่ผ่านเพจ แหม่มโพธิ์ดำ พร้อมทั้ง ระบุว่า ชาวบ้านสระบัวก่ำ อำเภอด่านช้าง เดือดร้อนมาก หลังมีฝนตกหนัก บ่อน้ำเสียโรงงานแห่งนี้พังทลาย น้ำเน่าจากบ่อไหลท่วมบ้านเรือนเสียหายเกือบทุกหลังคาเรือน มีไร่-นา เสียหายด้วย

เหตุการณ์เกิดเมื่อช่วงตี 3 ของวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านอยากได้เป็นธรรม และ ได้รับการแก้ไข

ล่าสุด วานนี้ ( 2 ต.ค.) นายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย อุตสาหกรรมจังหวัด ปภ.จังหวัด เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนายอำเภอ ทั้ง 3 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากบ่อบำบัดน้ำเสีย ประกอบด้วย อำเภอด่านช้าง อำเภอเดิมบางนางบวช และ อำเภอหนองหญ้าไซ เดินทางไปที่จุดเกิดเหตุ ในพื้นที่บ้านสระบัวก่ำ ตำบลหนองมะค่าโมง ดำเภอด่านช้าง

จุดนี้เป็นที่ตั้งบ่อบำบัดนำเสียของ บริษัท ไทยอะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บ่อดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ จากพื้นที่รวม 650 ไร่ มีรถแบล็คโฮกำลังเร่งซ่อมคันดินที่พังทลายลงมา เป็นเหตุให้น้ำเสีย ไหลทะลักสู่ลำห้วยกระเสียว และบ้านเรือน น้ำมีสีดำและกลิ่นเหม็น จากนั้น คณะรองผู้ว่าฯ ได้เดินทางไปที่ตั้งของโรงงานเพื่อประชุมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางแก้ไขปัญหา

นายพิภพ บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะมีฝนตกหนัก จนคันดินบ่อบำบัดน้ำเสียพังทลาย น้ำเสียทำให้ ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง เบื้องต้นจะเร่งแก้ไขบ่อบำบัดให้กลับสู่ภาวะปกติ เพื่อกักน้ำเสียไว้ได้ พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจสอบ และจะปล่อยน้ำในเขื่อนกระเสียวออกมาเจือจาง เนื่องจากขณะนี้ น้ำเสียได้ไหลกระจายไปหลายพื้นที่ หวั่นกระทบต่อแม่น้ำท่าจีน หากควบคุมไม่ได้

เบื้องต้นได้ สั่งปิดโรงงานแห่งนี้เป็นเวลา 45 วัน เพื่อแก้ไขปัญหา และจังหวัดเตรียมประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อหาแนวทางในการเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป

ด้าน นายสมชาย โล่วิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทดังกล่าว บอกว่า โรงงานยินดีที่จะปิดปรับปรุงแก้ไข ส่วนความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้ว เพื่อ ช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านอย่างเร่งด่วน และ เต็มที่ ยืนยันไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดเพราะ มีน้ำฝนที่ตกอย่างหนัก เข้ามาผสมกับ น้ำเสียโรงงานที่กำลังจะบำบัด น้ำเสียจึงไหลรวมกับน้ำธรรมชาติออกไปดังกล่าว หลังทราบเหตุได้ให้นำกระสอบทรายไปขวางทางน้ำไม่ให้ไหลออกไปเป็นวงกว้าง