นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่น สตง. ตรวจสอบ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กรณีจัดซื้อเรือเหาะมูลค่า 350 ล้านบาท หลังไม่สามารถใช้งานได้

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตนเองเดินทางไปยื่น หนังสือถึงผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบความคุ้มค่าของการใช้เงิน กรณีจัดซื้อจัดหาและใช้งานเรือเหาะ ของฝ่ายความมั่นคงในยุค พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก โดยอยากให้ สตง.ตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐ 350 ล้านบาท ในการซื้อเรือเหาะ และงบประมาณในการบำรุงรักษาอีกปีละ 50 ล้านบาท รวมแล้วเป็นงบประมาณใช้ไปประมาณ 700-800 ล้านบาทว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่

พร้อมกับต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก คณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะตรวจการณ์ อดีตคณะรัฐมนตรีที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะอนุมัติงบประมาณให้กองทัพบกนำไปใช้ และพนักงาน เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

จึงอยากให้ สตง.ช่วยพิสูจน์เรื่องนี้ เนื่องจากมีเอกสารหลักฐาน และมีการนำมาใช้ 8 ปี โดยต้องการให้ สตง.เร่งตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว

ขณะที่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวถึงการตรวจสอบการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ของกองทัพบก ว่า จะมีการพิจารณาเอกสารหลักฐานการใช้งานเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และตรวจสอบถึงการใช้งานที่ผ่านมาว่ามากน้อยเพียงใด โดยใช้เวลา 30 วัน

ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีความกังวลใดๆในการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะได้ติดตามและรวบรวมข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลของสตง.โดยตลอด เพราะเป็นประเด็นที่สังคมอยากรู้คำตอบ ดังนั้น สตง.จะนำข้อมูลที่มีอยู่ มาประเมินร่วมกับพยานหลักฐานที่ส่งมาซึ่งไม่มีอะไรยุ่งยาก ซับซ้อน

ด้าน พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า การยื่นเรื่องให้ สตง. ตรวจสอบการจัดซื้อเรือเหาะเมื่อปี 2552 เพื่อส่งต่อให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนอีกครั้งนั้น จะต้องดูว่ามีหลักฐานใหม่หรือไม่ เพราะ ป.ป.ช.เคยมีมติไปแล้วเมื่อปี 2558 ว่าไม่มีมูลความผิด และเป็นไปตามกฎหมาย หากมีพยานหลักฐานใหม่จึงสามารถนำมาพิจารณาได้

ส่วนความคืบหน้าการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ว่า เรื่องนี้เคยเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้วครั้งหนึ่ง แต่ที่ประชุมยังเห็นว่า มีประเด็นที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม รวมทั้งต้องมีการขอเอกสารหลักฐานจากต่างประเทศ ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้รับคำพิพากษาจากศาลประเทศอังกฤษ ที่พิพากษายึดทรัพย์อดีตนักธุรกิจที่จำหน่ายเครื่องจีที 200 แล้ว

ทั้งนี้ อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบพยานหลักฐาน และการแปลคำพิพากษา

"ศรีสุวรรณ" ยื่นหนังสือ สตง. จี้สอบการจัดซื้อ "เรือเหาะ" คุ้มค่าหรือไม่