"กรุงเทพโพลล์" เปิดเผยผลสำรวจ "ประเมินผลงาน 3 ปี รัฐบาล" พบว่า คะแนนความพึงพอใจจากประชาชนลดลงทุกด้าน ส่วนใหญ่อยากให้ปฏิรูปเศรษฐกิจ ปราบคอร์รัปชัน และ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ก่อนเลือกตั้ง

เนื่องจากเดือนสิงหาคม 2560 รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้บริหารประเทศครบ 3 ปี "กรุงเทพโพลล์" โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง "ประเมินผลงาน 3 ปี รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,216 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

จากการสำรวจพบว่า ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจในการบริหารงานของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ในช่วง 3 ปี เฉลี่ย 5.27 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ลดลงจากการประเมินการทำงานรอบ 2 ปี 6 เดือน ที่ได้ 5.83 คะแนน และ รอบ 2 ปี ที่ได้ 6.19 คะแนน

โดยการสำรวจครั้งนี้รัฐบาลได้คะแนนลดลงทุกด้าน อาทิ ด้านการบริหารจัดการและการบังคับใช้กฎหมาย ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต ด้านการต่างประเทศ และด้านเศรษฐกิจ

สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ของ พลเอกประยุทธ์ ในช่วง 3 ปี ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจ เฉลี่ย 7.00 คะแนน ซึ่งลดลงจากการประเมินรอบ 2 ปี 6 เดือน ที่ได้ 7.40 คะแนน และรอบ 2 ปีที่ได้ 7.57 คะแนน โดยการสำรวจครั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้คะแนนลดลงทุกด้านเช่นกัน

อาทิ ด้านความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ด้านความซื่อสัตย์สุจริต ด้านความขยันทุ่มเทในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ ด้านการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ ด้านความสามารถในการบริหารจัดการตามอำนาจหน้าที่ที่มี และด้านความสามารถสร้างสรรค์ผลงานหรือโครงการใหม่ ๆ

ส่วนเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลปฏิรูปให้สำเร็จก่อนจัดให้มีการเลือกตั้ง มากที่สุด พบว่า ร้อยละ 32.5 ระบุว่าทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นและมีความมั่นคงกว่านี้

รองลงมาร้อยละ 12.8 ระบุว่า ให้ปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันทั้งในวงราชการและการเมือง และ ร้อยละ 10.0 ระบุว่าให้ดูแลราคาสินค้าเกษตรเช่น ข้าว ยางพารา ไม่ให้ตกต่ำ

ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ผลสำรวจ ความพอใจของประชาชน ที่มีต่อรัฐบาล ลดต่ำลงทุกด้าน รัฐบาลควรรับฟังเสียงสะท้อนเหล่านี้ และ เร่งแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด ไม่ใช่แก้โดยการบังคับสื่อให้นำเสนอผลงานของรัฐบาล

โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจที่กระทบต่อเศรษฐกิจฐานรากผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลต้องเปิดใจรับฟังเสียงเสนอแนะจากฝ่ายเห็นต่าง ทั้งนักวิชาการ หรือฝ่ายการเมือง รัฐบาลต้องปรับทัศนคติตัวเองใหม่ อย่ามองคนเห็นต่างเป็นคนไม่รักชาติหรือเป็นฝ่ายต่อต้านคสช.อยากให้ปรับท่าทีและอดทนรับฟังความเห็นต่าง รวมทั้งเปิดพื้นที่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นให้มากขึ้น