เจ้าหน้าที่พบรองเท้าจำนวนมาก ถูกเผาในป่าพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ขณะตามหาตัว "ครูอ้อย" ผอ.กองการศึกษาฯ อบต.ชำ ด้านสามี ยืนยัน ไม่ใช่รองเท้าของภรรยา

 

ครอบครัว"ครูอ้อย" ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เปิดทางตามหาลูกสาวให้เจอ

เมื่อวานนช่วงเที่ยงคืนครึ่ง ( 15 ส.ค.) นายบุญเลิศ พร้อม นางแหลม อุ่นอ่อน และ ญาติๆ ได้มาร่วมตัวกันที่บ้านพัก นางสาวจุฑาภรณ์ (ครูอ้อย) อุ่นอ่อน ผู้อำนวยการ กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อทำพิธีกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์  นำเอารูปภาพ ในชุดเครื่องแบบข้าราชการปกติขาว มาวางไว้ในจาน พร้อมดอกไม้ธูปเทียนร่วมกันอธิษฐาน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้ น.ส.จุฑาภรณ์กลับมาบ้านโดยเร็ว หลังหายไปอย่างไรวี่แววกว่า 1 เดือน

และชาวบ้านพร้อมเจ้าหน้าที่ ออกค้นหาตัว ตามป่าชายแดนไทย–กัมพูชามาแล้วถึง 2 วัน ก็ยังไร้วี่แวว

นางแหลม บอกว่า ตนได้เดินทางไปที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อกันว่าลูกสาวหายตัวไป และพบกับชีปะขาวท่านหนึ่ง จึงให้เข้าทรงดูว่าลูกสาวอยู่ไหน  ซึ่ง ชีปะขาว บอกว่า ลูกสาวเสียชีวิตแล้ว แต่จะพบร่างในเร็วๆนี้  จึงต้องหาให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเปิดทางให้เจอลูกสาวโดยเร็ว แม้จะเตรียมใจไว้ว่าจะเสียชีวิตแล้วก็ตาม

ขณะเดียวกัน พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เดินทางไปพบกับอัยการจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับคดีนี้ด้วย

 

รอง ผบ.กกล.สุรนารี พบครอบครัวครูอ้อย ยืนยันให้ความเป็นธรรม

ขณะที่ พันเอก สรชัย สุทธิสนธิ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ มาพบกับ ครอบครัวนางสาวจุฑาภรณ์ ( ครูอ้อย) ที่บ้านพัก  เพื่อให้กำลังใจ และ ยืนยันว่า ทางกองทัพให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่

ก่อนหน้านี้ ได้เรียก ร้อยเอกศุภชัย ภาโส เข้าพบ หลังพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ แจ้งข้อหา  โดยร้อยเอกศุภชัย ได้ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง

ซึ่งกองทัพ มีคำสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่รับผิดชอบแล้วเพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ  อยู่ระหว่างกักบริเวณ และตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัย  โดยต้องรอผลสรุปสำนวนของพนักงานสอบสวนอีกทางหนึ่ง พร้อมระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของตัวบุคคล

ด้าน ครอบครัวครูอ้อย ได้ร้องขอกองกำลังสุรนารี ในฐานะเจ้าของพื้นที่ตามแนวชายแดน ให้เปิดเส้นทาง และอนุญาตให้ชุดคลี่คลายคดี ได้เข้าไปตรวจสอบในเขตหวงห้ามทางทหารในอีกหลายจุด ซึ่งก็ได้รับการอนุญาตแล้ว

 

พี่สาว ร้องอัยการ จ.กันทรลักษ์ ช่วยเหลือ นำตัวคนผิดเข้าศาลพลเรือน

ขณะที่ ช่วงเวลา 15.30 น. นางสาวหมายปอง อุ่นอ่อน พี่สาวครูอ้วย พร้อมกับ นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ซึ่งเป็นอาของครูอ้อย  เข้าพบ นายศักดาคล้ายร่มไทย อัยการจังหวัดกันทรลักษ์ เพื่อขอรับการช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย

ทั้งนี้ สำนักอัยการคุ้มครองสิทธิ์ และ ช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ศรีสะเกษ ได้ทำหนังสือ ขอทราบความคืบหน้าคดี และขอทราบเขตอำนาจศาลไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ  และ ตำรวจที่รับผิดชอบคดี

นางสาวหมายปอง บอกว่า ตนเองในฐานะพี่สาว ทำหนังสือ ถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง  เพื่อขอทราบความคืบหน้าคดี ว่าอยู่ในขั้นตอนไหน  และ คดีนี้ทราบว่า น่าจะมีบุคคลภายนอก ร่วมกระทำผิด ในหลายข้อหา และหลายคน  หากเป็นเช่นนั้น คดีนี้จะต้องฟ้องนายทหารยศร้อยเอก เป็นผู้ต้องหากับพวก

จึงอยากทราบ ว่า พนักงานสอบสวน เรียกบุคคลอื่นที่ร่วมกระทำผิดมาสอบสวนหรือไม่  และ ส่งสำนวนไปยังศาลจังหวัดกันทรลักษ์ หรือ ศาลทหาร เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม  จึงมาขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้

ด้าน นายศักดา คล้ายร่มไทย อัยการจังหวัดกันทรลักษ์ บอกว่า อัยการจังหวัดกันทรลักษ์ ได้ให้คำชี้แนะทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ตามที่กฎหมายกำหนดไว้  ส่วนการสอบสวน เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน ที่จะต้องดำเนินการต่อไป

 

สามียืนยัน รองเท้าที่พบ ไม่ใช่ของครูอ้อย ยังเดินหน้าค้นหาต่อเนื่อง

จากนั้นช่วง 21.30 น. นายวิทยา เกษแก้ว สามีครูอ้อย พร้อมญาติๆ และ นายโชคชัย สายแก้ว นายกอบต.เสาธงชัย เดินทางมาที่ สภ.น้ำยืน เพื่อดูหลักฐานรองเท้าจำนวนหลายคู่ที่ถูกเผา ซึ่งเจ้าหน้าที่พบในป่าช่วงค่ำ ขณะออกค้นหาครูอ้อย บริเวณห้วยไฮ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

หลังนายวิทยา ดูรองเท้าทั้งหมดอย่างละเอียด ยืนยันว่า ไม่ใช่รองเท้าของภรรยา และขนาดต่างกัน  จากนี้จะยังคงเดินหน้าตามหาตัวภรรยาต่อไป ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม  อีกทั้งลูกสาวก็ยังไม่ทราบว่า แม่หายตัวไป บอกไว้เพียงว่า ไปอบรมยังไม่กลับ

นายวิทยา ยังบอกว่าต่อว่า ตนเองได้ลางานเพื่อมาตามหาตัวภรรยาไว้เป็นเวลา 3 เดือน ปกติจะลาได้เพียง 2 เดือน ซึ่งตองของคุณผู้บริหาร ที่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเอง  ทั้งนี้หากไม่พบตัว ตนเองก็จะกลับไปทำงานต่อ เพราะยังมี ลูกสาว คือ น้องใบเฟิร์น ที่ต้องดูแลต่อไป พร้อมขอบคุณ ทุกฝ่ายที่ออกช่วยตามหาตัวภรรยาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ชุดคลี่คลายคดี พบจุดที่เผาศพ ครูอ้อยแล้ว  โดยศพถูกเผาจนเหลือแต่เศษเสื้อผ้า อยู่บนพื้นดิน บริเวณกึ่งกลางระหว่าง อ่างเก็บน้ำทั้ง 3 อ่าง หรือ ที่เรียกกันว่า “สามเหลี่ย มรกต” พื้นที่ ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน

เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่าง เข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานต่างๆ รอเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้ามาตรวจชันสูตรศพอย่างละเอียดในช่วงเช้าวันนี้ (16 ส.ค.) ต่อไป

สามีครูอ้อย ยืนยัน รองเท้าที่พบไม่ใช่ของภรรยา