เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 13 เม.ย. 59 ร.ต.อ.วิชิต ผังดี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีได้รับแจ้งเหตุจักรยานยนต์พุ่งชนทางโค้งในอุโมงค์ห้าแยกปากเกร็ด ฝั่งขาออกมุ่งหน้าแยกสวนสมเด็จ ถ.ติวานนท์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จึงพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาตร์ มูลนิธิป่อเต๊กตึ้งรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
พบศพชายทราบชื่อต่อมาคือนายอิศรานุเดช พระวงศ์คำ อายุ 19 ปี ทำงานขับรถแบ็คโฮที่แคมป์ก่อสร้างใกล้เคียงวัดสะพานสูง อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 1 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา สภาพศพนอนเสียชีวิตมีบาดแผลที่ใบหน้าฉีกขาดถึงแก้มขวา กระโหลกศรีษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์และ แขนขวาหัก ห่างไปราว 30 เมตร พบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว-ดำ ทะเบียน อมส 502 กรุงเทพ ในสภาพชนเสียบกับแท่งแบริเออร์ที่กั้นกลางระหว่างอุโมงค์จนน้ำมันเครื่องไหลเต็มพื้นถนนสภาพรถพังยับทั้งคัน
จากการสอบสวน น.ส.นิตยา นามต๊ะ อายุ 28 ปี ภรรยาผู้ตายทรายว่าผู้ตายออกจากแคมป์คนงานย่านวัดสะพานสูง ปากเกร็ด ไปหาเที่ยวสงกรานต์เล่นน้ำกับเพื่อนที่บางใหญ่ตั้งแต่เวลา 14.00 น. และยังไม่ได้กลับที่พักจนมาทราบว่าเสียชีวิตดังกล่าว แต่ตนไม่ทราบว่าผู้ตายจะมุ่งหน้าไปไหนเพราะสถานที่เกิดเหตุไม่ได้มุ่งหน้ากลับที่พัก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่าผู้ตายคงขับขี่จักยานยนต์มาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งลอดใต้อุโมงค์คงเสียหลักแหกโค้งชนฟุตบาทกระเด็นตกจากรถเสียชีวิตคาที่ ส่วนรถจักรยานยนต์ก็เสยพุ่งชนกับแท่งแบริเออร์ หลังแพทย์ชันสูตรพลิกศพแล้วได้มอบร่างให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อให้ญาติรับไปดำเนินการตามประเพณี
อุโมงค์แห่งนี้เป็นที่โจษจันกันในหมู่ผู้ใช้รถใช้ถนนว่าหลังก่อสร้างเสร็จและเปิดให้วิ่งมานานหลายปีแล้ว ปรากฎว่ามีทั้งรถเก๋ง และรถจักรยานยนต์แหกโค้งพุ่งชนกำแพงอุโมงค์เสียชีวิตมาแล้วหลายสิบศพ จนชาวบ้านเรียกอุโมงค์อาถรรพ์ และกรมทางหลวงต้องเร่งแก้ไขนำแท่งแบริเออร์มาวางเป็นแนวยาวภายในอุโมงค์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุแต่สุดท้ายก็ยังมีผู้เสียชีวิตภายในอุโมงค์แห่งนี้เป็นประจำ
Cr.วันชัย/นนทบุรี