หนุ่ม รปภ.วัย 22 เดือด! วางมวยแพ้รุ่นพี่ รปภ.ป้อมเดียวกัน คว้ามีดแทงเลือดท่วมก่อนเดินไปดับกลางถนน อีกฝ่ายเดินไปลากศพ-โทร. เรียกรถพยาบาลเอง พร้อมนั่งรอมอบตัว อ้างปัญหาสะสมถูกข่มมานาน

วันที่ 5 กรกฎาคม 2568 คืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตบริเวณหน้าป้อมยามหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังสายตรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าป้อมยามหมู่บ้าน พบศพชายทราบชื่อคือ นายเฉลิมเกียรติ อายุ 50 ปี รปภ.ของหมู่บ้าน นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กับพื้น สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดบริเวณหน้าอกด้านซ้าย จำนวน 1 แผล ลึกถึงอวัยวะภายใน

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายมานิต อายุ 22 ปี รปภ.ของหมู่บ้านเดียวกัน หลังก่อเหตุได้โยนมีดพับทิ้งเข้าพุ่มหญ้าข้างหมู่บ้าน และนั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเป็นผู้โทร. แจ้งสายด่วน 1669 ให้มารับตัวผู้บาดเจ็บ แต่ปรากฏว่านายเฉลิมเกียรติเสียชีวิตก่อน

ด้านนายวัชรินทร์ แสงวิมาน รองนายกเบาศมนตรีเมืองพิมพราช เปิดเผยว่า หลังจากมาถึงที่เกิดเหตุก็พบผู้ก่อเหตุนั้นนั่งรอมอบตัว จึงได้สอบถามสาเหตุกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้ก่อเหตุก็ได้อ้างว่า เป็นปัญหาที่สะสมมานาน มีปัญหากัน ทางผู้ตายชอบพูดข่ม ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุในครั้งนี้ โดยคนตายได้บอกว่าถูกผู้ตายชกต่อยก่อน หลังเกิดเหตุได้โยนของกลางคืออาวุธมีดทิ้งไว้ที่พุ่มหญ้าข้างหมู่บ้าน

นายมานิต ผู้ก่อเหตุกล่าวว่า คนตายกินเหล้าเมามามีปากเสียงกันเรื่องงาน จากนั้นได้มีการชกต่อยกัน แล้วเหตุการณ์รุนแรงขึ้นตนผลักคนตายก่อนหลังจากนั้นชกต่อยกัน ตนโดนต่อยก่อนจะแทงสวนไป ส่วนมีดไม่ได้พกติดตัวตลอดเวลา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายมานิตไปสอบปากคำที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมตรวจสอบพยานหลักฐานและสอบสวนหาสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้อย่างละเอียดต่อไป และเตรียมแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ขณะที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ช่วงเวลา 19.33 น. พบว่าผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในป้อมยาม ขณะที่ผู้ก่อเหตุยืนอยู่ในป้อมเช่นเดียวกัน จากนั้นทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน ก่อนจะเกิดการชกต่อยกันขึ้น จนกระทั่งผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมา แทงเข้าบริเวณใต้ราวนมของผู้เสียชีวิต

ต่อมาจะเห็นภาพผู้เสียชีวิตพยายามเดินออกมาจากป้อมยาม โดยใช้มือกุมบาดแผลไว้ และมีลักษณะคล้ายกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร. หาคนรู้จักเพื่อให้ช่วยเรียกรถพยาบาล จากนั้นผู้เสียชีวิตเดินมาถึงริมถนนบริเวณหน้าป้อมยาม ก่อนจะล้มลงเสียชีวิต

ผู้ก่อเหตุจึงเดินออกมาลากร่างผู้เสียชีวิตกลับเข้าไปภายในป้อมยาม และเป็นผู้โทร. แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพให้มาที่เกิดเหตุ ก่อนจะยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่หลบหนี