ตำรวจภูธรสตึก เร่งสอบปากคำสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ ที่เข้าแจ้งความว่าถูกเบี้ยวเงินแล้วกว่า 30 คน จากทั้งหมดกว่า 300 คน พร้อมเร่งตรวจสอบระบบบัญชี เพื่อรวบรวมหลักฐานออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบเพิ่ม

พันตำรวจโทนิลกาฬ พรศักดิ์ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีชาวบ้านที่เป็นสมาชิก และทายาทผู้รับผลประโยชน์จากหลายอำเภอ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม พร้อมแจ้งความกับตำรวจ ให้ตรวจสอบเอาผิดสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ สหกรณ์การเกษตรสตึก จำกัด

โดยกล่าวหาว่า ทางสมาคมฯ เบี้ยวเงินสงเคราะห์ศพของสมาชิก ที่เสียชีวิตคนละตั้งแต่ 120,000 ถึง 150,000 บาท รวม 300 คน เป็นเงินร่วม 40 ล้านบาท ว่า

ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เร่งสอบปากคำสมาชิกผู้เสียหาย ไปแล้วกว่า 30 ปาก ซึ่งถือว่า เป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก ดังนั้น ทางพนักงานสอบสวนจึงเสนอให้ผู้บังคับบัญชา พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ขึ้นมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายในคดีดังกล่าวด้วย เพื่อความรวดเร็วในการทำคดี

เพราะนอกจากจะต้องสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว ยังต้องประสานผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบระบบบัญชีของทางสมาคมฯ ถึงที่มาที่ไปของเงินด้วย เพื่อจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน

ขณะนี้ ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับบุคคลใด เพราะยังอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และตรวจสอบระบบบัญชี

ด้านนายเหลา ชื่นรัมย์ นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์การเกษตรสตึก ระบุว่า ขณะนี้ทางสมาคมฯ ยังไม่ได้จ่ายเงินสงเคราะห์ศพ ให้ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิตอยู่บางส่วน รวม 144 ราย

เนื่องจากสมาชิกฯ ยังไม่นำเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้ารายปี มาชำระให้ทางสมาคมฯ ตามเงื่อนไขคนละ 4,500 บาทต่อปี อยู่กว่า 7,000 คน จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 9,000 คน ทำให้สมาคมฯ ไม่มีเงินที่จะนำไปจ่ายให้ทายาทของสมาชิกที่เสียชีวิตได้

ขณะนี้ ทางสมาคมฯ ได้ออกหนังสือเตือนให้สมาชิกทั้งกว่า 7,000 คน นำเงินมาชำระโดยเร็ว เพื่อจะได้นำเงินสงเคราะห์ ไปจ่ายให้ทายาทของสมาชิกที่ยังคงค้างอยู่ แต่หากสมาชิกรายใด ไม่นำเงินมาชำระ หลังจากออกหนังสือติดตามทวงถามครั้งสุดท้าย ในวันที่ 31 สิงหาคมที่จะถึงนี้ จะขาดจากการเป็นสมาชิกทันที