ตร.ภาค3 จับผู้ต้องหาร่วมแก๊งก่อเหตุขโมยตู้เซฟเจ้าของรพ.เสริมความงามย่านนนทบุรีได้ทรัพย์สินไปกว่า50ล้านบาท อ้างโดนหลอกไปร่วมขบวนการ

กองกำกับการสืบสวน2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค3(กก.สส.2บก.สส.ภ.3) พ.ต.ท.ศุภชัย ปักโคทานัง สารวัตรสืบสวนสอบสวนกองกับการสืบสวน2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันสอบสวน นายนาวี บุตรภาชี อายุ32ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 6 ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดนนทบุรีที่81/2559ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนฯลงวันที่ 3 ก.พ. 2559 ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2559 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งอีก 5คนได้เข้าไปก่อเหตุขโมยทรัพย์สินในบ้านเลขที่9/7 หมู่4 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นางสาวพิศพรรณ ศรีไชยยันต์ อายุ54ปี เจ้าของโรงพยาบาลศัลยกรรมเพื่อความงามชื่อดังในจ.นนทบุรี ยกตู้เซฟหนักว่า 150 กิโลกรัมไปได้ทรัพย์สินเครื่องเพชรพร้อมเครื่องประดับหลายรายการมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2559 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการประสานจากตำรวจท้องที่โดยจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา พร้อมกับตรวจยึดอาวุธปืนขนาด.38 พร้อมกระสุน 5 นัด คีมตัดเหล็กและอุปกรณ์อื่นอีกหลายรายการ

สอบสวนรับสารภาพว่า ได้ร่วมลงมือในวันก่อเหตุจริงแต่อ้างว่าถูกกลุ่มเพื่อนที่ร่วมลงมือหลอกให้นำอุปกรณ์ตรวจหาโลหะซึ่งใช้ตรวจหาพระเครื่องหรือวัตถุโบราณที่อยู่ใต้ดินไปให้ที่หน้าบ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อจะค้นหาพระที่ฝังอยู่ใต้ดิน จากนั้นได้แยกย้ายกันไปโดยไม่ได้ค่าตอบแทนแม้แต่บาทเดียวก่อนจะมาทราบเมื่อเป็นข่าวออกไปว่าการนำอุปกรณ์ไปให้ในวันนั้นเป็นการก่อเหตุขโมยทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาทจึงหลบหนีไปกบดานอยู่หลายพื้นที่และมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพฤติกรรมเชื่อมโยงกันหลายอย่าง ตรวจประวัติยังพบว่าผู้ต้องหามีหมายจับคดีลักทรัพย์จากสภ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา และมีหมายจับคดีเสพยาเสพติดจากพื้นที่จ.บุรีรัมย์จึงควบคุมตัวส่งสภ.โชคชัยดำเนินคดีในข้องหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมอายัดตัวส่งท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

cr.ปรีดาสาระลัย/จ.นครราชสีมา