กรมการขนส่งทหารบก นำหลักฐานการปลอมแปลงเอกสารการยื่นจดทะเบียนรถประมูล 1,136 คัน ส่งให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เพื่อสอบสวนขบวนการนำเข้ารถผิดกฎหมายฟอกประมูลรถราชการ
เจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบก และกรมการขนส่งทหารบก เดินทางเข้าพบพันตำรวจตรีวรนันท์ ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อนำหลักฐาน กรณีทหารยศพันเอก สังกัดกรมการขนส่งทหารบก ยื่นเอกสารจดทะเบียนรถ เพื่อประมูล 1,136 คัน ในจำนวนนี้ 605 คัน เป็นการยื่นเอกสารเท็จ
โดยขอให้ดีเอสไอ รับไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ เพื่อสอบสวนขบวนการนำรถผิดกฎหมาย เข้าไปฟอกผ่านการประมูลรถยนต์ของหน่วยงานราชการ
พันตำรวจตรีวรนันท์ ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า หลักฐานข้อมูลรายละเอียดยานพาหนะชำรุดขายทอดตลาดปลอม ของกองคลังกรมการขนส่งทหารบก แบ่งเป็น 2 บัญชีหลัก คือ บัญชีรายละเอียดยานพาหนะชำรุดขายทอดตลาด (ยังไม่ได้จดทะเบียน) รวม 531 คัน และบัญชีรถที่ให้เพิกถอนการจดทะเบียน และการดำเนินการทางทะเบียน รวม 605 คัน
กระบวนการนี้ เกิดขึ้นในลักษณะ 2 ขั้นตอน คือ ปกติทางทหาร จะมีการขายทอดตลาด รถที่ไม่ใช้แล้วปีละ 1 ครั้ง กรณีนี้ มีการจัดทำเอกสารรถ 1,136 คัน ปลอมขึ้นมาทั้งหมด โดยที่ไม่มีรถอยู่จริง และได้แจ้งบัญชีไปยังกรมการขนส่งทางบก
กับอีกส่วน มีการจัดทำเอกสารว่า มีประชาชนมาประมูลรถได้ 605 คัน โดยไปขอตัดบัญชีจากบัญชีแรกที่ส่งไป จากนั้น ได้นำเอกสารไปออกทะเบียน กับกรมการขนส่งทางบกในจังหวัดต่างๆ พบมีชื่อผู้ครอบครองรถใน 20 จังหวัด
ส่วนที่ 2 คือ รถ 605 คันที่จดทะเบียนไป อาจจะเป็นรถที่นำเข้ามาโดยไม่ถูกต้อง โดยจะนำมาเทียบเคียงว่า จะเข้าลักษณะเดียวกับกรณีรถหรูนำเข้า ที่ไม่ผ่านขั้นตอนศุลกากรหรือไม่ โดยต้องตรวจสอบเอกสารก่อน ระบุได้ว่า มีข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้องหรือไม่