เทศบาลนครเชียงใหม่เร่งติดตามหาตัวนักท่องเที่ยวชายหญิงชาวต่างชาติ ที่ขึ้นไปตั้งเต็นท์นอนบนกำแพงเก่าเมืองเชียงใหม่ โดยชี้เป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม แม้ไม่ผิดกฎหมาย ขณะที่ประธานฝ่ายส่งเสริมศาสนา ประเพณี พิธีกรรมสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เรียกร้องหน่วยงานเ
ภายหลังจากที่ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ เผยแพร่ภาพถ่าย นักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 คน ขึ้นไปกางเต้นท์พักค้างแรมอยู่บนกำแพงเมือง 'แจ่งกู่เฮือง' ฝั่งคูเมืองด้านใน ใกล้โค้งสวนสาธารณะหนองบวกหาด บนถนนบำรุงบุรี อำเภอเมืองเชียงใหม่ นั้น
ล่าสุด นายวัลลภ นามวงค์พรม ประธานฝ่ายส่งเสริมศาสนา ประเพณี พิธีกรรมสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบว่า จุดที่นักท่องเที่ยวขึ้นไปกางเต้นส์ตามภาพนั้น เป็นลานปูนบนกำแพงเมืองเก่า ซึ่งทางขึ้นมีป้ายประชาสัมพันธ์ทั้งข้อความภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน
ระบุว่าห้ามเดินขึ้นไปบนกำแพงเมืองติดอยู่ นายวัลลภ ระบุว่า หลังจากได้เห็นภาพแล้วก็รู้สึกตกใจมาก เพราะคิดว่าเป็น เรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ยอมรับว่าแม้จะมีป้ายเตือน แต่เรื่องของวัฒนธรรมอาจไม่ตรงกัน โดยคนล้านนาไทยถือว่าพื้นที่นี้มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตของเทพญดาหรือจิตวิญญาณทั้งหลาย ซึ่งคนล้านนาไทยจะไม่เข้ามาหลบหลู่ ไม่มานอน มานั่ง นอกจากการทำกิจกรรมตาม ประเพณีและความเชื่อ
และเมื่อนักท่องเที่ยวมาทำกิจกรรมบนพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้จึงทำให้คนล้านนาไทยรับไม่ได้ เพราะดูเหมือนเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นขณะที่เทศบาลนครเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า การแสดงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติในครั้งนี้ แม้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่ก็ถือว่าไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่โบราณสถานที่มีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อและขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม กรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้เชื่อว่าอาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือความคึกคะนองของนักท่องเที่ยวคู่นี้มากกว่าจะเป็นเรื่องของความตั้งใจที่จะลบหลู่ความเชื่อของชาวเชียงใหม่ ประกอบกับคาดว่าช่วงที่นักท่องเที่ยวนำเต็นท์ไปกางนอนน่าจะเป็นช่วงดึกแล้ว ที่ปลอดจากสายตาของประชาชนและเจ้าหน้าที่ ซึ่งกว่าจะทราบเรื่องก็เป็นเช้าอีกวันหนึ่ง ซึ่งแม้เจ้าหน้าที่จะพยายามตรวจสอบติดตามหาตัวนักท่องเที่ยวทั้ง 2 แต่ก็ไม่พบตัวแล้ว