หลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบ สั่งรื้อถอนบ้านและร้านอาหารบุกรุกที่ป่าสงวนบริเวณหน้าสนามบินจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมเตรียมตรวจสอบนายทุนออกเอกสารสิทธิ์มิชอบ

กำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 26 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้นครราชสีมา และ ตัวแทนอำเภอสตึก เข้าติดประกาศแจ้งให้ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยและร้านอาหาร จำนวน 8 ราย รวมกว่า 10 หลัง บริเวณหน้าท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ให้เร่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออก หลังพบการบุกรุกพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติโคกโจด

โดยเจ้าหน้าที่ระบุ จะให้เวลา 30 วันในการรื้อถอนนับจากวันติดประกาศ แต่หากครบกำหนด ผู้บุกรุกรายใดยังไม่ดำเนินการรื้อถอนออก ก็จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายฐานบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติ

พร้อมกันนี้ยังเร่งตรวจสอบกลุ่มนายทุน ที่อ้างมีเอกสารสิทธิ์ทั้งโฉนด นส.3 และ นส.3 ก. ครอบครองที่ป่าโคกโจดอีกหลายรายด้วย ซึ่งหากพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ก็จะทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์พร้อมยึดคืนพื้นที่และดำเนินการคดีกับผู้ครอบครอง รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบด้วย

สำหรับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติโคกโจดมีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 20,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล มี ตำบลร่อนทอง , ศรีสตึก , เมืองแก และตำบลนิคม ได้ถูกกลุ่มนายทุน ข้าราชการและชาวบ้านเข้าไปบุกรุกครอบครองทำประโยชน์ส่วนตัว ทั้งทำการเกษตร ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยและร้านอาหารมากกว่า 3,000 ไร่ เป็นปัญหายืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2549

สั่งรื้อร้านอาหารรุกที่ป่าสงวนหน้าสนามบินบุรีรัมย์