ตำรวจล่อซื้อยาบ้า จากนักค้ารายใหญ่เครือข่ายยาเสพติดเรือนจำเขาบิน แต่ผู้ต้องหาหลบหนีทัน ทิ้งยาบ้าไว้ 1 แสน 2 หมื่นเม็ด ขณะที่ในจังหวัดสตูล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยึดของกลางใบกระท่อมได้กว่า 2 แสนบาท

ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองจังหวัดสตูล สามารถยึดใบกระท่อมจากผู้ต้องหา 2 คน ได้ของกลางเป็น พืชกระท่อมถึง 240 กิโลกรัม มูลค่าร่วม 2 แสนบาท และเรืออีก 2 ลำ

โดยรายแรก ยึดได้บริเวณคลองน้ำเวียน อำเภอเมืองสตูล หลังเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า มีเรือหางยาวกำลังขนพืชกระท่อม จึงไปตรวจสอบ แต่คนขับเรือได้หลบหนีเข้าป่าโกงกางไป ก่อนจะจอดเรือทิ้งไว้ แล้วหลบหนีต่อ เจ้าหน้าที่ตามไปพบของกลางเป็นใบกระท่อม ซุกซ่อนอยู่ 8 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 110 กิโลกรัม

อีกราย ตรวจยึดได้บริเวณท่าเรือปูยู อำเภอเมืองสตูล พบใบกระท่อมน้ำหนัก 130 กิโลกรัม ซุกซ่อนในเรือหางยาวที่จอดทิ้งไว้ ส่วนคนขับเรือไหวตัวหลบหนีการจับกุมไปได้เช่นกัน

ขณะที่พลตำรวจตรีดาวลอย เหมือนเดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 แถลงผลการจับกุมยาบ้า 60 ห่อ จำนวน 1 แสน 2 หมื่นเม็ด ที่สายตำรวจล่อซื้อจากเอเย่นต์ และนัดหมายส่งของกันในบริเวณพื้นที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

แต่เมื่อถึงเวลานัด กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ได้ขอเปลี่ยนสถานที่นัดหมาย และนำยาบ้าไปโยนไว้ที่โคนเสาไฟฟ้า ซอยไทยสมบูรณ์ฟาร์ม โดยไม่ยอมมาปรากฎตัวให้เห็น แล้วนัดโอนเงินกันภายหลัง

ตำรวจจึงยึดของกลางไว้ และขอศาลอนุมัติหมายจับ ผู้ที่สายตำรวจติดต่อล่อซื้อ คือ นายนพดล ถนอมมิตร อายุ 34 ปี เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหายัง พบว่า เป็นเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ เชื่อมโยงหลายจังหวัด และยังเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดที่เรือนจำเขาบิน จังหวัดราชบุรี ด้วย

ด้านทหาร ตำรวจ ร่วมกับฝ่ายปกครอง อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้คุมตัวนายโยธิน เพ็ชรนิล อายุ 20 ปี ไปค้นที่ห้องเช่า ย่านทุ่งครุ พบยาไอช์น้ำหนักรวม 120 กรัม มูลค่ากว่า 1 แสน บาท พร้อมถุงพลาสติกบรรจุยาไอช์ 460 ใบ วางอยู่บนพื้นห้องข้างเตียงนอน

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้เข้าตรวจสอบที่ร้านเกมแห่งหนึ่ง ริมถนนประชาอุทิศ-บ้านคลองสวน พบวัยรุ่นในร้าน มีสารเสพติด 4 คน และจากการสอบสวน พบว่า นายโยธิน เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

นายโยธิน สารภาพว่า เคยเป็นช่างแอร์ในร้านมีชื่อแห่งหนึ่ง ย่านทุ่งครุ แต่เงินไม่พอใช้ และมารู้จักรุ่นพี่ชื่อ บอย ที่มานั่งเล่นเกมในร้านด้วยกัน ชักชวนลงทุนซื้อยาไอช์มาขาย โดยทำมานานกว่า 1 ปี เอาเงินไปใช้จ่ายและเที่ยวเตร่

ส่วนที่ตนหน้าใส เพราะนำเงินส่วนหนึ่ง ไปซื้อของบำรุงร่างกายและใบหน้า เพื่อให้ดูเด็ก จะได้ไม่เป็นที่จับตาของเจ้าหน้าที่ ในเวลาตรวจค้น และจะไม่เสพยาเสพติดด้วย

อีกจุดหนึ่ง ฝ่ายปกครองอำเภอบางพลี นำกำลังเข้าจับกุมนายมลชัย จันทร์จาด อายุ 35 ปี บริเวณบ้านพักบกลางซอยตาเทพ ยึดของกลางได้ยาบ้า 5 เม็ด หลังจากถูกนายสุวัฒน์ชัย ปาสายออ อายุ 29 ปี หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัย ประจำลานจอดรถ ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางพลี ซัดทอดว่า เป็นผู้นำยาบ้ามาจำหน่ายให้

โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าได้จับกุมหัวหน้า รปภ. คนนี้คาชุดทำงาน และตรวจสอบพบว่า ซุกซ่อนยาบ้า 5 เม็ดไว้ในล็อคเกอร์ที่ทำงานอีกด้วย

นายมลชัย รับสารภาพว่า นำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับหัวหน้า รปภ.จริง ส่วนยาบ้านั้น รับมาจากพ่อค้ายาเสพติด ย่านร่มเกล้าอีกทอดหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลต่อ จนทราบว่ามี นายการุณย์ หุ่นแสน อายุ 27 ปี เป็นพ่อค้า จึงติดต่อล่อซื้อและพบของกลาง เป็นยาไอซ์ ห่อเล็ก จำนวน 7 ห่อ น้ำหนัก 7.6 กรัม

จากนั้นตำรวจได้นำของกลาง พร้อมผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางพลี ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลผู้ร่วมขบวนการทุกราย

ขณะที่ตำรวจภูธรชลบุรี ควบคุมตัวนายดำรัส สีดา อายุ 48 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ในกระเป๋ากางเกงจำนวน 1 กรัม หลังพบว่า เดินท่าทางมีพิรุธ อยู่ในซอยเสริมสันติ อำเภอเมืองชลบุรี จึงเข้าตรวจค้น

ผู้ต้องหา สารภาพว่า มีอาชีพเป็นชาวประมง และยาไอซ์ ที่พบนั้น เตรียมเอาไว้เสพ ในช่วงที่ออกทะเลจับปลาเป็นประจำ เพื่อให้มีแรงทำงาน แต่ครั้งนี้ ตั้งใจจะเลิกเสพ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาค้นตัว จึงไม่หนี ยอมให้จับแต่โดยดี

และตั้งใจว่า เมื่อพ้นโทษออกมาคราวนี้ จะไปบวชเรียน แล้วเลิกยาเสพติดเสียที เพราะเสพมาจนต้องเพิ่มปริมาณ และดัดแปลงวิธีเสพยา ให้หนักขึ้นกว่าปกติ ทำให้ร่างกายทรุดโทรมอย่างมาก

ยึดใบกระท่อม 240 กิโลกรัม มูลค่า 2 แสนบาทที่สตูล