วิศวกรรมสถานฯ สรุปเหตุฐานรองรับแท่นเครนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ถล่มหน้าวัดดอนเมือง จนมีคนงานเสียชีวิต 3 คน ว่า เป็นความผิดพลาด ของวิศวกรผู้ควบคุมงาน พร้อมมีการเสนอมาตรการความปลอดภัยเพิ่มอีก 10 ข้อ
นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ หรือ วสท. แถลงถึงกรณี อุบัติเหตุุฐานเครนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ถล่ม ลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย บริเวณหน้าวัดดอนเมือง เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ว่า
จากการตรวจสอบภายหลังเกิดเหตุดังกล่าว สาเหตุที่ทำให้ฐานรองรับแท่นเครนร่วงลงมานั้น เกิดจากตัวยึดระหว่างฐานเครนกับตอม่อ ที่เรียกว่า "เหล็กพีทีบาร์" หรือ "เหล็กรับแรงดึงสูง" เกิดขาดทำให้ฐานเครนร่วงลงมา
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เหล็กพีทีบาร์ขาดนั้น เกิดขึ้นระหว่างการเคลื่อน Truss (ทรัส) หรือ โครงถัก ไปยังตอม่อตัวถัดไป ซึ่งในระหว่างเคลื่อนโครงถักได้เกิดการติดขัด เพราะตอม่อ ตัวถัดไปอยู่ต่ำกว่า ทำให้การเคลื่อนตัวของโครงถักไม่สามารถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ตรงตามไกด์วิว
ประกอบกับการทำงานของเครื่องจักรที่ต้องใช้แรงเคลื่อนโครงถัก เกิดการฉุดกระชากจนเป็นเหตุให้เหล็กพีทีบาร์ ซึ่งเป็นตัวยึดเกิดขาดก่อนฐานรองรับแท่นเครนจะร่วงลงมา โดยกรณีการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นการตัดสินใจ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่ไม่ทราบว่าเป็นการตัดสินใจของใคร และ มีวิศวกรผู้ควบคุมงานในขณะนั้นหรือไม่
อย่างไรก็ตามทาง วสท. ได้เสนอมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างทางสำหรับรถไฟฟ้า หลังจากที่มีการหารือร่วมกับตัวแทนบริษัทผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงาน และ การรถไฟแห่งประเทศไทย จนสามารถสรุปเป็นมาตรการ 10 ข้อ อาทิเช่น
ต้องเพื่อความแข็งแรงของการยึดชุดล้อเลื่อน คานเหล็ก และ ขายึด ให้ติดกับเสาตอม่อให้แข็งแรงขึ้น เพื่อให้สามารถรับแรงแนวราบทั้งเดินหน้า และถอยหลังได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของน้ำหนักโครงเหล็ก
ต้องจัดให้มีวิศวกรหรือช่างเทคนิค ตรวจสอบการทำงานอย่างเข้มงวด และ ในกรณีระหว่างการปฏิบัติงาน หากเครื่องจักรเกิดขัดข้องต้องหยุดทันที แล้วแจ้งต่อวิศวกร เป็นต้น