กลุ่มผู้ประกอบการรถตู้โดยสารส่วนบุคคลจังหวัดเพชรบุรี ยื่นหนังสือให้กรมการขนส่ง พิจารณาผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมาย กับรถตู้ส่วนบุคคลป้ายฟ้า ทำให้ได้รับผลกระทบ รายได้ลดลง

ขบวนรถตู้ส่วนบุคคลกว่า 20 คันเดินทางมาที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบุรี โดยมีนายเจริญ ช่อกระทุ่ม เป็นผู้นำ เข้ายื่นหนังสือกับนางอรสา เพ็งพริ้ง ขนส่งจังหวัดเพชรบุรี ขอให้กรมการขนส่งทางบกพิจารณาปรับกฎระเบียบรถตู้ส่วนบุคคล ป้ายฟ้า ซึ่งจะรับลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ หรือหน่วยงานองค์กรทั้งรัฐ เอกชน เดินทางไปท่องเที่ยวแบบส่วนตัว

ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าหากนำรถตู้มาใช้รับจ้าง ต้องจดทะเบียนเป็นรถโดยสารไม่ประจำทางป้ายเหลือง 30 หรือป้ายฟ้า 36 เป็นรถวีไอพี 10 ที่นั่งเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พรบ.รถยนต์ มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ส่งผลให้ผู้ขับขี่ได้รับความเดือดร้อน ขอผ่อนผันการจับกุมระหว่างการขอขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง โดยเฉพาะรถที่อยู่ระหว่างการผ่อนไฟแนนซ์ และขอให้แยกหมวดรถตู้โดยสารส่วนบุคคลเป็นหมวดรถยนต์นั่งรับจ้างชนิดพิเศษไม่เกิน 12 ที่นั่ง

ส่วนที่จังหวัดชลบุรีกลุ่มเครือข่ายรถตู้ไม่ประจำทาง นำโดยนายวิทยา ประดิษฐ์คำ ตัวแทนรถตู้เพื่อส่วนรวม ซึ่งเป็นรถตู้รับจ้างไม่ประจำทาง ของจังหวัดชลบุรี นำคนขับรถตู้กว่า 70 คัน เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และขนส่งจังหวัดชลบุรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ระบุว่า คสช. ได้ออกกฎระเบียบให้รถตู้ไม่ประจำทาง ห้ามวิ่งขวา ห้ามวิ่งเกิน 90 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ส่งผลกระทบกับผู้ขับรถตู้ ไม่มีใครมาว่าจ้างไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือ เพราะการเดินทางล่าช้า จึงทำให้ไม่มีเงินส่งไฟแนนซ์ อีกทั้งการกำหนดให้ติด wifi ก็เป็นการเพิ่มต้นทุนในแต่ละเดือน จึงขอความเห็นใจ พิจารณาความเดือดร้อน

ขณะที่วันนี้ทาง สคบ.ลงพื้นที่ทำความเข้าใจผู้ประกอบการจำหน่ายรถยนต์มือสอง ต้องติดฉลากให้ข้อมูลกับผู้บริโภค หลังพบสถิติการร้องเรียนสูง ทั้งการถูกหลอกลวงสภาพรถไม่ตรงกับราคา และคุณภาพ พร้อมระบุจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด

โดยผู้บริโภคต้องติดฉลากไว้ที่ตัวรถยนต์ใช้แล้ว เพื่อแจ้งให้ผู้บริโภคทราบรายละเอียด ข้อเท็จจริงในสาระสำคัญเกี่ยวกับรถยนต์ที่ซื้อ รวม 11 ข้อ เช่นวันจดทะเบียน /เลขทะเบียน/ เลขเครื่องยนต์/ภาระผูกพันของรถยนต์ที่มีอยู่ในวันจำหน่าย หากฝ่าฝืนไม่ติดฉลากหรือให้ข้อมูลไม่ถูกต้องมีโทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ