นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อติดตามงานของรัฐบาล และ พบปะประชาชน พร้อมตำหนิพวกอยู่ต่างประเทศจ้องต่อว่ารัฐบาล ทำลายประเทศตัวเอง ระบุยิ่งมีคนไล่ ยิ่งอยู่ในตำแหน่งต่อไป ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ต่างจับตาเลขทะเบียนนายกฯให้โชค

นายกฯควงรมต.ลงพื้นที่จ.นครพนม

ตั้งแต่ช่วงเช้า วานนี้ (27มี.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครพนม เพื่อติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และติดตามความก้าวหน้าเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ทันทีที่เดินทางถึงจ.นครพนม นายกฯ ได้พบปะกับประชาชนกว่า 3 พันคนที่มารอให้การต้อนรับ ที่โรงเรียนบ้านนาโดนใหม่ ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร โดยนักเรียนโรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูล ได้จัดแสดงการฟ้อนภูไทเรณูนครให้นายกฯ รับชม ซึ่งเป็นการฟ้อนที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และถือเป็นศิลปะเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม ประจำเผ่าของภูไทเรณูนคร

จากนั้น นายกฯได้ขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า กฎหมายทำให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เพราะไม่ว่า ใครกระทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน ไม่มีใครอยู่นอกระบบ จึงขออย่าไปเชื่อคำพูดที่บิดเบือน เพราะตนไม่เคยรังเกียจใครทั้งสิ้น และไม่ได้อยากลงโทษใคร ไม่อยากเอาใครมาติดคุก แต่กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าทำผิดต้องถูกดำเนินคดี ที่ผ่านมา ตนไม่เคยเล่นงานใคร และไม่เคยโยนความผิดให้ใคร เพียงแต่ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่หลายคนกลับโจมตีตนเองอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่ความจริงไม่ได้ดำเนินคดีใหม่กับใครสักคดีเดียว

นายกฯติงพวกหนีคดีต่อว่ารัฐบาล-ลั่นยิ่งไล่ยิ่งอยู่

พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า เมื่อต่างชาติมาท่องเที่ยวเมืองไทย ทุกคนต่างติดใจไม่อยากกลับ เว้นแต่คนไทยที่ไม่ติดใจประเทศตัวเอง ไม่อยากอยู่ประเทศตัวเอง แต่อยากไปอยู่ที่อื่น คนบางพวกชอบหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ แล้วกลับมาด่าประเทศไทย จึงขอให้ทุกคนอย่าไปเชื่อคำพูดของกุล่มคนดังกล่าว

รัฐบาลประชาธิปไตยจะต้องนำความเห็นต่างมาคิดว่า จะทำให้คนอยู่ร่วมกันอย่างไร และหาวิธีการแก้ไข แต่ไม่ใช่การต่อสู้ หรือ บิดเบือน หรือ ทำผิดกฎหมาย วันนี้ใครอยากจะด่ารัฐบาลก็ด่าไป แต่ตนไม่ขอรับอะไรทั้งสิ้น เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ขณะนี้มีบางคนต่อต้านตนเองในต่างประเทศ และไปพูดทำให้ประเทศเสียหาย หากต้องการทำ เพื่อขับไล่ตนเอง ขอยืนยันว่า หากยิ่งไล่ ตนก็จะยิ่งอยู่ในตำแหน่งต่อไป

ช่วงหนึ่ง พลเอกประยุทธ์ ได้พูดติดตลกหยอกล้อกับชาวบ้านว่า วันนี้ตั้งใจมาตรวจเยี่ยมพบปะพี่น้องประชาชน รับทราบปัญหา ด้วยความตั้งใจ อยากให้ประชาชนให้กำลังใจ และช่วยสนับสนุนการทำงานรัฐบาลไม่ใช่สนใจ แต่เสี่ยงโชคจากเลขทะเบียนรถนายกฯ หากใครนำเลขทะเบียนรถไปเสี่ยงโชคแล้ว ไม่ถูกอย่ามาบ่น-ต่อว่าตนเองละกัน

การลงพื้นที่ เมื่อวานนี้ (27มี.ค.) นายกฯได้นั่งรถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน กจ 7 อุดรธานี ทำให้ชาวบ้านที่ชอบการเสี่ยงโชคต่างพากันถ่ายรูป และ จดจำทะเบียนรถไว้ เพื่อนำไปเสี่ยงโชคตามความเชื่อ โดยนายกฯใช้เวลาปราศรัยกับประชาชนนานกว่า 50 นาที

หลังจากนั้น นายกฯและคณะ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลของบ้านสวย เมืองสุข และกิจกรรมของศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บ้านเนินน้ำคำ ต.โคกหินแฮ่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ระหว่างเยี่ยมชมนิทรรศการ นายกฯ ได้ร่วมเป่าแคนกับชาวบ้านที่มาต้อนรับด้วย แต่นายกฯเป่าแคนได้เพียงไม่นานนัก ก่อนหยุด และบอกว่า'เดี๋ยวขอไปซ้อมก่อน' จากนั้นจึงร่วมปลูกต้นกันเกรา ภายในโรงเรียนบ้านนาโดนใหม่

จากนั้นนายกฯ ได้เดินทางต่อ ไปยังวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยนายกฯ ได้กราบนมัสการพระเทพวรมุณี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พร้อมสักการะหอพระแก้ว และสักการะพระธาตุพนม และได้เขียนชื่อลงบนผ้าห่มพระธาตุ ก่อนจะทำพิธีห่มพระธาตุและเยี่ยมชมพระธาตุด้านใน จากนั้นนายกฯ ได้เดินชมนิทรรศการ และรับฟังบรรยายความคืบหน้าการขอขึ้นทะเบียนพระธาตุพนมเป็นมรดกโลก ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา

ช่วงบ่าย นายกฯได้เป็นประธานการประชุมหารือร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)ส่วนกลาง และ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) ที่หอประชุมศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม จากนั้นนายกฯ จึงเดินทางไปยังสำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศรษฐนครพนม และเยี่ยมชมพร้อมติดตามงานของศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน ที่ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม

นายกฯสักการะ'พญาศรีสัตตนาคราช' ขอพรให้คนไทยมีความสุข

ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปสำรวจศักยภาพการท่องเที่ยว จ.นครพนม บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง และ ได้สักการะพญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งประดิษฐาน ณ ริมแม่น้ำโขง อ.เมือง จ.นครพนม โดยนายกรัฐมนตรี ได้สวดคำบูชาเป็นภาษาบาลี พร้อมคำแปลภาษาไทยว่า 'ข้าพเจ้าขอน้อมกายวาจาและจิตใจไหว้วันทาพญาศรีสัตตนาคราช ขอความสุขสวัสดีจงเกิดแก่ประชาชนคนไทยทุกๆคนตลอดจนครอบครัวของ ข้าพเจ้า เทอญ' จากนั้นนายกฯจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ