เช่นเดียวกับ พิษณุโลก ที่ภัยแล้งไปถึงแล้วเช่นกัน แต่ผลที่เกิดขึ้น กรรมไปตกกับสัตว์เลี้ยง อย่างวัวและควาย ตอนนี้เดือดร้อนหนัก หาหญ้าสดกินไม่ได้ แหล่งน้ำก็แห้งขอด

เรื่องนี้ฟังจากปากชาวบ้าน อย่าง น.ส.แสงเดือน ปัดเพชร อายุ 49 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงควาย ในพื้นที่หมู่ 12 บ้านหนองเขาควาย ต.บางระกำ เปิดเผยว่า ตนเองกับพี่ชายร่วมกันเลี้ยงควายเอาไว้จำนวนกว่า 50 ตัว ซึ่งช่วงนี้สภาพอากาศเริ่มแห้งแล้งและร้อนอบอ้าวมากในตอนกลางวัน ทำให้หญ้าสดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเหลือน้อยลงแทบไม่มีหญ้าให้ควายกินเลย ควายที่เลี้ยงไว้เริ่มขาดแคลนอาหารตนต้องเดินทางไปขอฟางข้าวจากชาวนาใกล้เคียงนำกลับมาให้ควายกิน แต่ก็คาดว่าน่าจะไม่เพียงพอเพราะควายมีจำนวนหลายตัวอีกไม่กี่วันฟางข้าวก็คงจะหมดลง

นอกจากนี้แหล่งน้ำตามธรรมชาติ ที่เคยต้อนฝูงควายออกไปหากินคือบึงตะเคร็งซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะนี้ทางอำเภอ ก็ขอความร่วมมือให้งดนำฝูงควายปล่อยเข้าไปหากินเองตามธรรมชาติ จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกลดึงน้ำเข้ามาในพื้นที่นาและสูบน้ำจำนวน 3 ทอด มาใส่ไว้ในเรือท้องแบน รองน้ำไว้ให้ฝูงควายกิน อีกทั้งยังทำปลักโคลนไว้ให้ควายได้ลงไปนอนแช่คลายร้อนเพื่อไม่ให้ควายเครียดหรือหงุดหงิดง่าย

โดยพ่อค้าคนกลางที่เคยเดินทางมารับซื้อควายในราคาตัวละ 17000–29000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดน้ำหนักตัวและวัย ก็ยังไม่กล้ารับซื้อ เนื่องจากควายซูบผอมลงมาก เบื้องต้นจึงต้องหันมาปลูกหญ้าเองแต่ก็ต้องใช้เวลานาน กว่าหญ้าจะโตจึงอยากฝากถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ให้นำหญ้าสดหรือฟางฟ่อนมาแจกจ่าช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงควายในระยะนี้ด้วย.

จ.พิษณุโลก แล้งหนัก วัวควายหาหญ้ากินไม่ได้