การ์ดบาร์โฮสใช้ปืน ดวลสู้เซียนพระใช้มีด ถูกเซียนพระแทง 9 แผลดับคาลานจอดรถสถานบันเทิง ย่านพระราม 2

วันที่ 15 ธ.ค. 68 เมื่อเวลา 04.30 น. ร.ต.ท.รัฐธิปก แก่นพิทักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุชายถูกทำร้ายเสียชีวิต เหตุเกิดที่สถานบันเทิงชื่อดัง ย่านพระราม 2 เขตบางขุนเทียน กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.วิชยานนท์ เอกตาแสง ผกก.สน.ท่าข้ามพ.ต.ท.ธนกร จันรอด รอง ผกก.สส.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถ ด้านหน้าพบศพนายกิตติธัช อายุ 36 ปี การ์ดของร้านบาร์โฮส ฝั่งตรงข้ามสถานบันเทิงที่เกิดเหตุ สภาพนอนหงายใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมทับเสื้อคลุมแขนยาว สีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน ที่เอวเหน็บซองปืนสีดำ มีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงและฟันที่ศีรษะ ลำคอ และหน้าอกซ้าย รวม 9 แผลในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนพก ขนาด .380 และปลอกกระสุนขนาดเดียวกัน 3 ปลอก เก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกิตติธัช ผู้ตาย และนายวิทยาธร อายุ 30 ปี เด็กเสิร์ฟสถานบันเทิง ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้อง ได้มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับนายปวัล อายุ 43 ปี อาชีพขับรถโม่ปูน ชอบเล่นพระ และพวกนายปวัล รวม 3 คน ถกเถียงทะเลาะวิวาทกันเรื่องพระเก๊ หลังนายปวัลไปทักว่านายวิทยาธร คล้องเหรียญหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง (ย่านบางขุนเทียน) เป็นของปลอม เหตุเกิดที่ร้านอาหารตามสั่ง ที่ตั้งอยู่ติดบริเวณลานจอดรถ หน้าสถานบันเทิง หลังจากทั้ง 3 คนเสร็จจากกินดื่มออกมานั่งกินข้าว ก่อนทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกย้ายกันไป

ต่อมาประมาณ 15 นาที นายกิตติธัชขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาว มาที่บริเวณลานจอดรถสถานบันเทิง พบกับนายปวัล ขณะกำลังจะขับรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กสีบรอนซ์เทา กลับที่พัก แล้วเกิดการทะเลาะวิวาทกันอีกครั้ง กระทั่งมีเสียงดังคล้ายอาวุธปืน 2–3 นัด โดยนายกิตติธัชเสียชีวิต ส่วนนายปวัลขับรถกระบะหลบหนีไปพนักงานสอบสวนมอบให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่ รพ.ศิริราช

เวลาต่อมานายปวัล ผู้ก่อเหตุ บาดเจ็บมีบาดแผลถูกปืนยิงเฉี่ยวที่ขาขวา และมีร่องรอยถูกอาวุธมีดที่บริเวณหน้าท้อง ขับรถกระบะเข้ามอบตัวพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ท่าข้าม พร้อมอาวุธมีดพับยาวประมาณ 10 นิ้ว ที่ใช้ก่อเหตุ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง ผู้ตายได้ใช้อาวุธปืนยิงตนก่อนแต่แค่เฉี่ยวขา ตนเข้าปล้ำใช้อาวุธมีดแทงและฟันป้องกันตัว

ตำรวจจึงแจ้งข้อหาใช้อาวุธมีดทำร้ายผู้อื่นเสียชีวิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป