จังหวัดศรีสะเกษร่วมกับกัมพูชา เปิดจุดชมวิวพญากูปรีอย่างเป็นทางการบริเวณช่องสะงำ เตรียมรองรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะที่จังหวัดพิษณุโลก เปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวเที่ยวแห่งใหม่ ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามคล้ายสวิตเซอร์แลนด์

ภาพถ่ายจากมุมสูง บริเวณอ่างเก็บน้ำ ใกล้เคียงโรงเรียนน้ำรินพิทยาคมบ้านไพรงาม หมู่ 23 ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทองจังหวัดพิษณุโลก กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เริ่มได้รับนิยม เพราะทิวทัศน์มีความสวยงาม คล้ายกับวิวที่สวิตเซอร์แลนด์ เพราะมีอ่างเก็บน้ำ และต้นสนที่เรียงขนานกันเป็นแนวยาวนับร้อยต้น ประกอบกับมีทิวเขาสลับทับซ้อนกันอย่างสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวพากันนัดมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก เพื่อเก็บภาพความสวยงาม ที่เที่ยวแห่งนี้ ยังอีกอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว คือ การเข้ามาตกปลาในอ่างเก็บน้ำตามที่ชาวบ้านมีมติเห็นชอบร่วมกันเปิดอ่างให้นักท่องเที่ยวมาตกปลาได้ ในราคาเบ็ดคันละ 100 บาทสำหรับต่างชาติ ส่วนคนไทย เบ็ดคันละ 20 บาท เพื่อหารายได้มาพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่วนปลาในอ่างเก็บน้ำมีหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นปลายี่สก ปลาสร้อยปลาจีนและปลาไน

ข้ามไปดูที่จังหวัดศรีสะเกษ พลตรีสนธยา ศรีเจริญ รองแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พลตรีโต๊จ รารองเสนาธิการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เป็นประธานพิธีเปิดจุดชมวิวพญากูปรีอย่างเป็นทางการ บริเวณริมถนนสายบ้านแซร์ไปร์-ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากเมืองใหม่ช่องสะงำประมาณ 3 กิโลเมตร จุดชมวิวพญากูปรีแห่งนี้จะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำห้วยสำราญที่สวยงาม ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่าง อ.บัวเชิด จ.สุรินทร์ และ อ.ภูสิงห์จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างสะพานไม้ เพื่อเป็นทางเดินลงไปชมน้ำตกและถ้ำพญากูปรี รวมทั้งจะจัดทำร้านกาแฟ “กูปรีคอฟฟี่” เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสองแผ่นดินไทย–กัมพูชา เริ่มต้นจากวัดไพรพัฒนาไปยังเป้ยตารวน และอ่างเก็บน้ำโอทะมอของประเทศกัมพูชา เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียน

ปิดท้ายที่ถนนเจริญรัฐ เขตเทศบาลเมืองเลย อ.เมืองเลย จ.เลย นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดกิจกรรม 'ถนนคนเดินเพลินภู' เพื่อจัดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการและประชาชน นำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย เพื่อส่งเสริมเทศกาลท่องเที่ยวประจำปี 2559 ของจังหวัดเลย โดยมีผู้ประกอบการ และสมาชิกชุมชนท้องถิ่นกว่า 300 ราย นำสินค้าหัตถกรรม เช่น ผ้าทอ เครื่องจักสาน ผลิตภัณฑ์สมุนไพร สินค้าที่ระลึก เช่นเสื้อผ้า เครื่องประดับ และอาหาร จากชุมชนต่างๆ มาจำหน่าย ซึ่งจะจัดเป็นประจำทุกวันเสาร์ เวลา 16.00-22.00 น. เพื่อส่งเสริมอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน

จ.พิษณุโลก วิวสวยคล้ายสวิตเซอร์แลนด์