ขาขาดสองข้าง!! ระเบิดเขมรตกใส่บ้าน 3 หลังพื้นที่ อ.โคกสูง ตำรวจเจ็บ 1 นาย พลเรือนเจ็บ 5 สาหัส 2 หนึ่งในนั้นขาขาดทั้งสองข้าง โดยเขมรใช้ปืนใหญ่และ BM-21 ยิงตอบโต้เกือบ 200 นัด อีกทั้งยังพบว่า ทหารเขมรยิงจรวดจากในหมู่บ้าน ในชุมชน และหลบซ่อนในโรงเรียน ใช้หมู่บ้านเป็นที่เติมกระสุนสะท้อนว่า เขมรใช้โล่มนุษย์ป้องกันไม่ให้ทหารไทยโจมตีทำลาย BM-21

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 ธ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ อินทสิทธิ์ ผกก.สภ.โคกสูง ได้รับรายงานจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.โคกสูง ว่า มีกระสุนปืนจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา ตกในพื้นที่ของหมู่ที่ 4 บ้านคลองตะเคียน ต.หนองแวง หมู่ที่ 3 บ้านหนองเสม็ด หมู่ที่ 10 บ้านหนองสิม ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จึงรายงานให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และผู้บังคับบัญชาทราบ โดยพบว่า มีประชาชนพลเรือนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 คน โดยเป็นข้าราชการตำรวจ 1 ราย และเป็นพลเรือน 5 ราย มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย หนึ่งในนั้นขาขาดทั้งสองข้าง

1. ด.ต.ขจรเกียรติ กันหากุลวัฒน์ ผบ.หมู่ สส.สภ.โคกสูง ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ มีเลือดไหลออกมา
2. น.ส.ภาสิณี อายุ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด
3. นางคำพั้ง อายุ 69 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด ถูกส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
4. นายชลอ อายุ 70 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด ต้องส่งต่อ รักษาที่ รพ.สระแก้ว
5. นายชัยยะ ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด
6. นางแสงเดือน อายุ 56 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด

ขณะเดียวกัน ได้รับรายงานอีกว่า มีบ้านเรือนที่อยู่อาศัยและคอกวัวได้รับความเสียหายหลายหลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ซึ่งเมื่อเวลา 16.45 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายนริศ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา นายอำเภอโคกสูง ลงพื้นที่ โรงพยาบาลโคกสูง เพื่อเยี่ยมประชาชนผู้ได้รับบาดเจ็บ และประสานความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อเนื่อง

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 22 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. โดยกองกำลังบูรพา ระบุว่า การปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 15 โดยมีการรบปะทะเพื่อยึดครองพื้นที่ ใน 3 พื้นที่ แบ่งเป็น พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และใช้อาวุธปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนเล็ก ยานรบ และใช้ BM 21 ระดมยิงตอบโต้มายังฝ่ายเราอย่างต่อเนื่อง กว่า 120 นัด

ส่วนพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และใช้อาวุธปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนเล็ก และใช้ BM 21 ระดมยิงตอบโต้มายังฝ่ายเรา กว่า 60 นัด พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง ฝ่ายกัมพูชาเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และมีการใช้อาวุธปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด และปืนเล็กตอบโต้เข้ามายังพื้นที่ฝ่ายเรา

ขณะที่ กองทัพอากาศ โดย F16 ได้ปฏิบัติการโจมตีที่หมายทางทหาร จำนวน 2 ที่หมาย ในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามบ้านคลองแผง และตรงข้ามบ้านหนองจาน นอกจากนี้ กกล.บูรพาได้ปฏิบัติการต่อที่หมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่บริเวณฝั่งปอยเปต ตรงข้าม ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ โดยพิสูจน์ทราบว่า เป็นอาคารของเครือข่ายสแกมเมอร์ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นที่ตั้งพลซุ่มยิงและติดตั้งระบบแอนตี้โครน

ที่สำคัญ ได้รับรายงานการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ ในพื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จำนวน 1 นาย คือ ส.อ.กัมปนาท ทองแสง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์

สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จำนวน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ประกาศให้อพยพมายังศูนย์พักพิงชั่วคราวและปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย โดยปัจจุบันได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวให้บริการ จำนวน 40 ศูนย์ มีประชาชน รวม 17,441 คน

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายทหารไทย ยังตรวจพบอีกว่า ทหารเขมรปรับเปลี่ยนสถานที่ยิงจรวด BM-21 ไปตั้งในหมู่บ้าน ในชุมชน และหลบซ่อน ในโรงเรียน และใช้หมู่บ้านเป็นที่เติมกระสุน BM-21 สะท้อนว่า เขมรใช้โล่มนุษย์ป้องกันไม่ให้ทหารไทยทำลาย BM-21 เพราะจะกระทบพลเรือนชัดเจน