เปิดใจยายนอนเฝ้าศพสามี 3 คืน 4 วัน เพราะน้ำท่วมสูงถึงชั้น 2 ลูกชายต้องฝ่าน้ำออกไปแจ้งเจ้าหน้าที่ จนมีกู้ภัยเชียงใหม่ขับเรือมาช่วยรับศพ ฝากถึงหน่วยงานช่วยเข้ามาดูแลบ้างก็ดี แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่โทษใคร

วันที่ 3 ธันวาคม 2568 จากกรณีคลิปเหตุการณ์เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพผู้เสียชีวิตจาเหตุน้ำท่วมออกนำมาวางไว้ริมถนน โดยภรรยาไม่สามารถนำร่างสามีซึ่งเสียชีวิตออกมาข้างนอกได้เนื่องจากปริมาณน้ำได้เข้าท่วมถึงชั้นสองก่อน เจ้าหน้าที่กู้ภัยรับแจ้งว่ามีศพอยู่ในบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นภายในซอย ถนนราษฎร์อุทิศซอย 24 ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว มีลักษณะเป็นบ้านปูนสองชั้น และได้พบนางกรกนก อายุ 74 ปี ภรรยาของนายขจร อายุ 74 ปี ผู้เสียชีวิต และหลานชาย ก่อนที่จะพาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่วางร่างผู้เสียชีวิตเอาไว้ ซึ่งอยู่ตรงช่วงทางตรงบันไดส่วนทางภรรยาผู้เสียชีวิตก็นอนเฝ้าศพอยู่ที่เตียงนอนซึ่งห่างกันประมาณ 1 เมตร โดยได้ใช้โต๊ะไม้ยาว 2 ตัวซ้อนกัน และนำถังพลาสติกสี่เหลี่ยมมารองน้ำเหลืองเอาไว้ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามเหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้น

จากการสอบถาม นางกรกนก จองศิริ อายุ 74 ปี ได้เล่าว่า น้ำได้เริ่มเข้าท่วมเมื่อช่วงวันเสาร์ จากนั้นฝนก็ได้ตกลงมา จากเดิมที่น้ำลดลง น้ำก็ได้เพิ่มขึ้นมาอีกขึ้นจนถึงชั้น 2 ก่อนที่จะขนของหนีขึ้นไปข้างบน พร้อมกับช่วยพาลุงขึ้นไปนอนข้างบน พอพาลุงขึ้นไปนอนข้างบน แกก็ตาเหลือก ตนเองจึงให้กินน้ำหวานเข้าไปและประมาณ 10 นาทีลุงก็ได้เสียชีวิต ตอนนั้นมีกันอยู่ 5 คนรวมลุงด้วย ช่วงก่อนที่ลุงจะเสียชีวิตก็ช่วยกันรีบขนของกันเสียงดัง ขึ้นลงขึ้นลง เอะอะโวยวายว่าน้ำกำลังขึ้น ส่วนลุงก็นอนฟังอยู่บนเตียง ก็คงจะตกใจช็อกเสียชีวิต

หลังลุงเสียชีวิตก็ได้นำโต๊ะมาต่อกันสองชั้น แล้วนำผ้าห่มมาคลุม แล้วห่อตัวลุงกับที่นอน แล้วหลานชายก็พันสก๊อตเทป แล้วก็ให้ลุงนอนตรงทางลงบันได จากนั้นพอเริ่มเข้าสู่วันที่ 3 ศพของลุงก็เริ่มมีกลิ่น ก่อนที่ลูกชายจะเดินฝ่าน้ำไปแจ้งความ และก็น้ำท่วมสูงขึ้นทันที ตอนนั้นพะวงลูกชายว่าเป็นอย่างไรบ้าง ออกไปแจ้งความแล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเชียงใหม่ขับเรือเข้ามาที่บ้าน แล้วก็บอกว่ามาเก็บศพ ซึ่งตนได้ยินรู้สึกโล่งใจและดีใจว่าจะได้นำร่างของลุงไปไว้ในตู้แช่ของโรงพยาบาล ส่วนคนในบ้านก็รอน้ำลดลง ซึ่งรวมทั้งหมดที่ตนอยู่กับลุงประมาณ 5 คืน 6 วัน ช่วงที่ลุงมีชีวิตลุงมีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน และก็นอนเป็นอัมพฤกษ์อยู่บนเตียง ก็อยากจะฝากถึงหน่วยงานช่วยเข้ามาดูแลบ้างก็ดี เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่โทษใครเพราะเดือดร้อนกันทุกคน