ป.ป.ช. เข้าตรวจเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มองห้องลับ "ไม่ลับ" เห็นทางเข้าออเล็งตรวจเส้นเงินกได้ชัดเจน เตรียมตรวจสอบเส้นเงินคนเกี่ยวข้อง ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
วันที่ 28 พ.ย. 2568 นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เข้าตรวจสอบเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กรณีผู้ต้องขังชาวจีนได้สิทธิพิเศษ โดยนอกจากการตรวจสอบแล้วยังประชุมหารือในการทำสำนวน

ภายหลังจากการประชุมและตรวจสอบภายในเรือนจำกว่า 1 ชั่วโมง นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ระบุว่า ตนลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบภายในเรือนจำที่มีปัญหา เนื่องจากต้องเข้าตรวจสอบข้อมูลหาเจ้าหน้าที่รัฐหรือกรมราชทัณฑ์ ว่ามีผู้ใดใช้อำนาจหน้าที่ชอบหรือไม่ชอบอย่างไร และจะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ โดยการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ เพื่อดูกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ที่ชุดจู่โจมเข้ามาปฏิบัติการในวันที่ 16 พ.ย. รวมถึงมารับฟังคำชี้แจงจากกรมราชทัณฑ์ ซึ่งได้มีการดูสถานที่ตั้งแต่เริ่มต้นปฏิบัติการ การนำพาบุคคลภายนอกเข้ามาในเรือนจำ ว่าปรากฏตัวอยู่ที่จุดใด และกล้องวงจรปิดมีภาพอะไรบ้าง รวมไปถึงห้องที่มีการกล่าวอ้างว่า “ห้องผู้ต้องขังจีนเทาและผู้ต้องขังที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบนำไปใช้”
เบื้องต้น ทาง ป.ป.ช. มีข้อมูลน้อยมาก แต่จะทำงานในเชิงรุกมากขึ้น โดยไม่ต้องรอสำนวนจากพนักงานสอบสวน ครั้งนี้ ป.ป.ช.จึงลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อดูสถานที่จริงและให้เห็นข้อมูลว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร จากนั้นจะนำข้อมูลไปรายงานต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อจะไปประกอบการพิจารณาหรือทำคู่ขนานกับสำนวนจากตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ และยืนยันว่า การดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้มีใบสั่งให้มาลงพื้นที่ แต่เป็นการทำงานเชิงรุกมากขึ้น เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งทาง ป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบได้ตั้งแต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีลงมา

กรณีห้องลับ จากการเข้าไปดู มองว่าไม่ได้ลับ เป็นเพียงห้องรับรองของผู้บริหาร สามารถมองเห็นทางเข้าออกได้อย่างชัดเจน ส่วนกรณีที่ผู้ใต้บังคับบัญชาหากเดินผ่านห้องลับแล้วเห็นการกระทำผิด จะมีส่วนผิดด้วยหรือไม่ ตรงนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบกัน โดย ป.ป.ช.จะใช้ระบบไต่สวน และสามารถตรวจสอบดูเส้นทางการเงินและทรัพย์สินเกี่ยวกับความร่ำรวยผิดปกติ แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่เป็นคดีพิเศษก็ตาม แต่ทางดีเอสไอจะต้องส่งสำนวนการสืบสวนให้กับ ป.ป.ช.ภายใน30 วัน เพื่อพิจารณาว่าจะให้ ป.ป.ช. รับคดีเองหรือไม่
ส่วนจะเรียกอดีต ผบ.เรือนจำฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำหรือไม่นั้น นายพัฒนพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นตอนนี้เป็นอำนาจของดีเอสไอในการสอบสวน เพื่อหาหลักฐานรวมถึงพยาน
ส่วนกรณีที่อดีต ผบ.เรือนจำฯ ได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้มีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เนื่องจากพบว่ามีความร่ำรวยผิดปกตินั้น ในกรณีดังกล่าวตนต้องไปดูรายละเอียดที่ส่งมาในหนังสือก่อน เนื่องจากตอนนี้ยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว แต่ถ้าหากมีรายละเอียดใดที่ต้องการเพิ่มเติมก็จะได้ตรวจสอบต่อไป

















