ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ กฟภ. ค้นอีสาน 9 จุด จับผู้ต้องหาลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์ โกงค่าไฟกว่า 26 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำโดยนายพิชัย กว้างขวาง ผู้อำนวยการกองบริการลูกค้า ฝ่ายวิศวกรรมและบริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จังหวัดอุบลราชธานี และนายยอดธง ล้อวชิระวัฏฏ์ หัวหน้าแผนกมิเตอร์ กองบริการลูกค้า ฝ่ายวิศวกรรมและบริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกันจับกุม นายอภินันท์ อายุ 36 ปี ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน”

สถานที่จับกุม บริเวณบ้านแห่งหนึ่ง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย
1. เครื่องขุด Bitcoin96 เครื่อง
2. เราท์เตอร์ 9 ตัว
3. กล้องวงจรปิด 10 ตัว
4. โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
5. คอมพิวเตอร์ Server 4 เครื่อง

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากกรณีต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ประสานกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.3 บก.ป. เกี่ยวกับการตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้าในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี พบว่ามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าเพื่อนำไปใช้ขุดเหมืองเงินดิจิทัล จากการลักใช้กระแสไฟฟ้าโดยไม่ผ่านมิเตอร์ไฟฟ้า พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. ติดตามขยายผลเพื่อจับกุมขบวนการเพราะสร้างความเสียหายแก่รัฐหลายล้านบาท

จากการสืบสวนขยายผลร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่ตรวจสอบพบความผิดปกติหลายประการของกลุ่มลักลอบขุดเงินดิจิทัล ซึ่งมีลักษณะเป็นขบวนการและวางแผนอย่างเป็นระบบ จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ป. ร่วมกับ บก.ปอท., บก.ทล. และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า รวมกำลัง 70 นาย ได้เปิดปฏิบัติการ “กองปราบ x กฟภ. บุกอีสาน ค้น 9 จุด จับผู้ต้องหาลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์ โกงค่าไฟกว่า 26 ล้านบาท” นำหมายศาลเข้าตรวจค้น 9 แห่งในพื้นที่ จ.อุบลราชธานีและจ.ศรีสะเกษ สามารถจับกุมตัว นายอภินันท์ฯ อายุ 36 ปี แสดงตัวเป็นผู้เช่าและเจ้าของเครื่องขุดบิตคอยน์
ณ บริเวณบ้านหลังหนึ่ง ถนนศรีวิเศษ ต.เมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ

สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า เป็นโปรแกรมเมอร์ มีความรู้ด้านเทคโนโลยี และลักลอบขุดบิตคอยน์มาตั้งแต่ปี 2563 โดยได้เช่าอาคารพาณิชย์ในพื้นที่ศรีสะเกษ 5 จุด และอุบลราชธานี 1 จุด พร้อมใช้กล่องเก็บเสียงเพื่ออำพราง หลังจากสอบสวนนำตัวส่ง สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนของกลางที่ตรวจยึดได้จากจุดอื่นๆ ถูกส่งไปยัง สภ.วังหิน, สภ.กันทรารมย์, สภ.อุทุมพรพิสัย และ สภ.เมืองอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการและเกี่ยวข้องอีกต่อไปมาดำเนินคดี

















