"อัจฉริยะ" แฉ เส้นทางเงินนักการเมือง ช. พุ่งสูง 1,000 ล้าน แต่ป.ป.ง. ยึดทรัพย์ 33 ล้าน จี้ตร.ยึดทรัพย์ตัดชีวิตทางการเมือง
วันนี้ (13 พฤศจิกายน 2568) ที่รัฐสภา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม คณะกรรมาธิการความมั่นคง ว่า ตนติดใจเรื่องการยึดอายัดทรัพย์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ไปที่น่าสนใจว่าป.ป.ง. ยึดทรัพย์เพียงแค่ 33 ล้านบาท ของสส.ช. ซึ่งจากทั้งหมด 159 ล้านบาท นั้นเป็นทรัพย์สินของสส.ช.เลย แต่เป็น เพียงแค่ 33 ล้านบาท ซึ่งได้ให้เห็นว่ามีการยื่นต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ปี 2566 ประมาณ 90 ล้านบาท และมีเส้นเงินที่ทำร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษอีก 76 ล้านบาท และเป็นการรับเงินที่ออกมาจาก นางสาวพิมพ์วิไล พยาน นั้น ประมาณ 100 ล้านบาท เมื่อตนดูทั้งหมดสามผังรวมกันแล้วเกือบ 300 ล้านบาท แต่ป.ป.ง. หยุดเพียงแค่ 33 ล้านบาท มันไม่สมเหตุสมผล กับผังที่ตนนำมาให้ดูวันนี้คือผังสีส้มซึ่งเส้นเงินทั้งขบวนการอาจจะสูงถึง 15,000 ล้านบาท เฉพาะของส.ส.ช.นั้น อาจสูงถึงหลาย 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะรถยนต์อีกสองคันที่คืนไปจาก สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาและ ผู้กำกับก็มีเส้นเงินรับเงินจากขบวนการนี้ดีกว่า 4 ล้านบาท ในการส่งรถของกลางไปให้ ซึ่งโชคดีว่ารถหรูก็ยังเป็นชื่อของ สส.ช.อยู่ แต่อย่างอื่นนั้นทั้งเรื่องอาวุธปืนหรือทรัพย์สินอื่นๆก็ไม่ได้นำลงในของกลางทำให้เห็นว่าคดีของสส.ดังกล่าวนั้นมีตำรวจเข้าไปมีส่วนการช่วยเหลือ
สิ่งต่อมาคือในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ป.ป.ง. จะเชิญตนให้นำเส้นเงินของสส.ช. ทั้งระบบไป มอบให้ป.ป.ง. และจะดำเนินการเพิ่มเติมกับเครือข่ายทั้งหมดซึ่งตนเชื่อว่าถ้าป.ป.ง. ได้จากเส้นเงินของตนไปน่าจะยึดซัดเพิ่มในเครือข่ายได้เหมือนที่เคยยึดเงินจากลูกตำรวจในเครือข่ายเว็บพนันกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งตนยังมั่นใจว่าสามารถยึดทรัพย์ของ สส.ช. น่าจะยึดได้กว่า 500 ล้านบาท ซึ่งจะตัดวงโคจรของ สส.ช. ไม่ให้มีโอกาสกลับมาเล่นทางการเมืองซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อไม่มีเงินเล่นการเมืองก็จะทำให้ไม่สามารถกลับมาเป็นผู้สมัครใน จังหวัดสงขลาได้อีก ตนมองว่าการตัดเส้นเงินของนักการเมืองที่เอาเงินมาเล่นการเมืองโดยเอาเงินมาจากเว็บพนันออนไลน์เป็นความเดือดร้อนของพ่อแม่ที่เยาวชนดำเนินไปเล่นนั้นที่กลุ่มนี้นำเงินทุนสีเทามาเล่นกันค่ะเราทำได้นักการเมืองก็จะเหลือน้อยลงที่เป็นคนที่ไม่ดีน่าจะเหลือแต่คนดีมาบริหารประเทศ
เมื่อถามว่าจากเส้นทางทางการเงิน ที่มีการโยงเส้นเกินไปถึงนักการเมืองตัวอักษร ส. นั้นมีเกี่ยวพันกับการรับหรือไม่ นายอัจฉริยะกล่าวว่ากรณีนี้จะมีเส้นเงินอยู่ทั้งหมดสามผังที่เห็นจะมีจำนวน 4 แสน และอีกไม่กี่ แสนรวบรวมแล้วจะมีประมาณ 2 ล้านกว่า ซึ่งตนไม่มั่นใจว่าสส.ช. เกี่ยวข้องหรือไม่เพราะเราต้องให้ความเป็นธรรมว่าเงินจำนวนไม่กี่ล้านไม่เหมือนกับสส. ช. ที่มีจำนวนเยอะและนิติสัมพันธ์กับบุคคลอื่นนั้นเยอะมาก แต่ของ นาย ส. นั้น เท่าที่ดูนั้นนิติสัมพันธ์จะเกี่ยวข้องกับลูกชายมากกว่าที่เป็นนิติสัมพันธ์กับยาเสพติดหรือเว็บพนันซึ่งระดับนั้นชัดเจน แต่ของตัวนาย ส. ฉากมาชี้แจงอะไรต่างๆนั้นตนว่าก็จะสิ้นสงสัยแต่ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็ต้องถูกผ่านการตรวจสอบแต่สิ่งสำคัญคือวันนี้เรายังไม่ได้ตรวจสอบเส้นเงินของนาย ส. เพราะทางตำรวจก็ต้องเอาบัญชีของนาย ส. ว่าบัญชีที่รับเงินโอนมานั้นบัญชีนั้นมีเงินจริงๆเท่าไหร่ที่หมุนเวียนเข้ามาในบัญชีและไม่กี่บัญชีในบัญชีทั้งหมดที่มีการเปิดกับธนาคารทุกแห่งในประเทศประเทศไทย ดังนั้นจะเป็นช็อตต่อไปที่ต้องมีการตรวจสอบเพราะวันนี้ นาย ส. เท่าที่รู้ยังไม่ได้ปรากฏว่าเป็นเจ้าของเว็บพนันเพียงแต่มีลักษณะคือเกี่ยวข้องเป็นผู้เล่นหรือเป็นแค่ผู้เก็บหัวคิวเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นเจ้าของจากการตรวจสอบ
นาย อัจฉริยะ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่ออกมาเผยบ้างตนไม่เคยตั้งตำรวจที่ไปยึดเงินเจ้าของเว็บพนันวันนี้ตนฝากนายประเสริฐว่าอยากให้ไปตรวจสอบเอง เพราะตนไม่ได้ไปกล่าวหาแต่ตนเอาความจริงมาปรากฏว่านายประเสริฐได้มีหนังสือแต่งตั้งจากประกาศกระทรวง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางกระทรวงดิจิทัล โดยปลัดกระทรวงคนปัจจุบันได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ในข้อหาปลอมเอกสารทางราชการที่นำไปหลอกลวงเจ้าของเว็บพนันในการอายัดบัญชีโดยการเรียกเก็บเงิน 50% ซึ่งสิ่งนี้เป็นหลักฐานที่ตนยืนยันว่า เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวได้มีการแจ้งข้อมูลไปยังธนาคารโดยใช้หนังสือของกระทรวงดิจิตอล ซึ่งหลังจากธนาคารแจ้งมายังเจ้าของบัญชีก็ให้ติดต่อทางฝั่งเจ้าหน้าที่รายนั้น ปรากฏว่าจากการตรวจสอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลคนปัจจุบันพบว่าหนังสือฉบับนี้เป็นหนังสือปลอมไม่มีคดีเกิดขึ้นในกระทรวงหรือถูกอายัดแต่อย่างใดเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ที่แต่งตั้งโดยอดีตรัฐมนตรี
ตนบอกว่าไม่อยากให้นายประเสริฐ มั่วเพราะหลายเรื่องแล้วตนยืนยันว่าตนทำไม่มีผิดพลาดเพราะต้องทำหลักฐานอย่างแน่นหนาเนื่องจากตนคุยกับนักการเมือง เพราะนักการเมืองเล่นลิ้นแต่ต้นมีเอกสารทางราชการยืนยันลายเซ็นก็เป็นลายเซ็นของนายประเสริฐ หรือมีใครปลอมลายเซ็นไม่ก็อยากให้ช่วยตอบหน่อย

















