ชาวบ้านภูมิซรอล ติดเขาพระวิหาร เผยเริ่มพบเห็นคนแปลกหน้า หวั่นเป็นไส้ศึก มาสอบถามหาซื้อบ้านเก่า แต่พอเผลอ กลับสอบถามที่มั่นของทหาร
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 นับตั้งแต่เมื่อคืนจนรุ่งเช้า ที่สามแยกหมู่บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านสุดท้าย ก่อนขึ้นสู่เขาพระวิหาร และเป็นเป้าหมายของการปะทะทุกครั้ง นับจากอดีตปี พ.ศ.2554 จนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เฝ้าระวังดูเหตุการณ์ นับจากที่เมื่อวานได้มีเสียงปืนที่ชายแดนหมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว โดยที่หมู่บ้านตามแนวชายแดนของจังหวัดศรีสะเกษยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ยังไม่มีเหตุการณ์กันปะทะแต่อย่างใด ตลอดทั้งคืนยังเงียบสงบ และกลางดึกมีฝนตกลงมา แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการเก็บข้าวของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า เอกสารทางราชการส่วนตัว ไว้พร้อมที่จะอพยพ หากได้มีคำสั่งจากทางราชการ
ขณะที่มีชาวบ้านพบเห็นคนแปลกหน้าที่มาสอบถาม อ้างกำลังมาหาซื้อบ้านเก่าว่ามีใครจะขายไหม พูดคุยกันหลายเรื่อง และพอชาวบ้านเผลอ ก็ได้สอบถามเรื่องฐานที่มั่นของทางทหาร สอบถามที่ตั้งปืนใหญ่ ซึ่งชาวบ้านเอะใจ บอกไม่รู้ ไม่ทราบ ก่อนได้รีบแจ้งผู้นำหมู่บ้าน แจ้งทหารให้ทราบ ติดตามตัวกันแต่ไม่พบตัว สงสัยจะออกไปจากหมู่บ้านแล้ว
นายอุดร อายุ 56 ปี ชาวบ้านภูมิชรอล เปิดเผยว่า ตนพบมีคนแปลกหน้า มาสอบถามตนว่า มีคนขายบ้านเก่าไหม และถามว่ามีทหารมีเข้ามาไหม อยู่ตรงไหน ตนเชื่อว่า มีกลิ่นไม่ค่อยดี ตนก็บอกทหาร ทหารก็บอกว่าให้ถ่ายรูปไว้ให้หน่อย ตนก็บอกคนแปลกหน้าไปว่า ไปถามแถวกลางบ้านน่ะว่ามีคนที่จะขายบ้านเก่าไหม คนที่มาถามลักษณะเป็นคนที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงราว 165 ซม. ตนไม่เคยเห็นว่าเป็นคนในหมู่บ้านตนมาก่อน มาสอบถามเรื่องฐานทหาร ที่ตั้งปืนใหญ่ อยู่ตรงไหน ตนก็บอกว่าไม่ทราบไป เขาก็เดินไปขี่รถจักรยานยนต์หนีไป
นางจิราพร บอกว่า หลังจากที่ได้ข่าวว่าทหารเหยียบทุ่นระเบิด ชาวบ้านก็พากันตกใจว่าจะเกิดสงครามยิงกันอีกรอบ ตนก็ตกใจเช่นกัน ก็ได้เตรียมเสื้อผ้าใส่กระเป๋ารอไว้ รอฟังแม่ทัพอย่างเดียวว่าจะให้อยู่ หรือจะให้อพยพ เชื่อว่าหากเหตุการณ์ต่างๆ จะสงบลงได้ก็คือ ต้องให้ ฮุนเซน ตายก่อน ทุกวันก็รอฟังเสียง หากมีเสียงปืนใหญ่ก็จะอพยพออกจากบ้านไป แต่หากเงียบอยู่เช่นนี้ ก็จะรอดู อยู่ต่อไปก่อน
ด้านคุณยายบุญมี อายุ 78 ปี ขณะนั่งรอฟังเสียงประกาศจากหอกระจายข่าวหมู่บ้านกรณีสถานการณ์ชายแดน กล่าวว่า ทุกวันก็นอนไม่ค่อยหลับ ลูกที่อยู่ต่างจังหวัดก็โทรมาสอบถามว่า เหตุการณ์เป็นเช่นไร ก็บอกลูกๆ ไปว่า ทุกวันนี้ก็ยังสงบอยู่ แต่ตนเองก็ไม่อยากอพยพไปไหน เพราะไปอยู่บ้านลูกๆ ถึงจะสะดวกสบายแต่ก็ไม่เหมือนอยู่อาศัยบ้านตนเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่บ้านเมืองตามชายแดนจะสงบจริงๆ

















