บุกรังการเงินแก๊งสแกมเมอร์ รวบ 4 ชาวจีนย้ายฐานจากเขมรซุกกลางกรุง พบใช้เอไอตัดคลิปตุ๋นเพื่อนร่วมชาติ รายได้หลักแสนบาท

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 9 พ.ย. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.กก.สส.บก.น.5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.บช.น., บก.สส.บช.น., บก.น.5 และสน.ทองหล่อนำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นคอนโดฯ หรูแห่งหนึ่ง ภายในซอยสุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ พร้อมจับกุมผู้ต้องหาแก๊งสแกมเมอร์ จำนวน 4 ราย 1.Mr.Xiahou Xin อายุ 29 ปี 2.Mr.Liu Ming อายุ 28 ปี 3.Mr.Li Lei อายุ 22 ปี และ 4.Mr.Zeng Lingquan อายุ 21 ปี ทั้งหมดสัญชาติจีน พร้อมของกลางยึดของกลาง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 เครื่อง ใช้การตัดต่อวิดีโอเพื่อสแกนหน้า, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง ใช้ทำข้อมูลการเงินเพื่อนำเงินออกในประเทศกัมพูชา, โทรศัพท์มือถือ 60 เครื่อง และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุงพร้อมอุปกรณ์การเสพยาเสพติด

พล.ต.ท.จิรภพ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากข้อมูลสืบสวนในหลากหลายด้าน สามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีน โดยพบใช้ห้องพักดังกล่าว เป็นฐานปฏิบัติการ มีของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง โดยแบ่งเป็น 2 เครื่องใช้ในการตัดต่อคลิปวิดีโอ ส่วนอีก 2 เครื่อง ใช้ในการสมัครทำธุรกรรมทางการเงินผ่านการใช้คลิปที่ตัดต่อ ซึ่งนอกจากของกลางดังกล่าว ยังพบยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงซิปล็อก 2 ถุง โดยกลุ่มผู้ต้องหาชาวจีนทั้งหมดเดินทางจากประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวจีน

จากการสอบถามทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหารับงานดัดแปลงคลิปวิดีโอและทำธุรกรรมทางการเงินให้กลุ่มสแกมเมอร์ชาวจีน โดยรับงานผ่านแอปพลิเคชัน Telegram โดยผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้จักกับผู้ที่ว่าจ้าง หรือ บอสชาวจีน ซึ่งที่ผ่านมาจะได้รับรายได้เดือนละประมาณ 20,000-30,000 หยวน หรือตีเป็นเงินไทยประมาณกว่า 1.3 แสนบาท และหากทำงานสำเร็จเกินกว่าเป้า ก็จะได้รับเงินพิเศษเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ทั้งหมดเคยเดินทางไปยังประเทศที่เชื่อมโยงกับกลุ่มสแกมเมอร์ เช่น กัมพูชา มาเลเซีย ทำให้รู้จักกับเครือข่ายซึ่งประกอบไปด้วย ชาวมาเลเซีย 1 คน และชาวกัมพูชา 3 คน

จากแนวทางการสืบสวน โดย พล.ต.ท.จิรภพ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทราบเบาะแสว่า มีกลุ่มบอสหนุ่มชาวจีนรายใหญ่หลายราย ได้หลบหนีจากประเทศกัมพูชาเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มอบหมาย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนจนพบกลุ่มชาวจีนต้องสงสัย 4 ราย แอบขนอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เข้าไปในคอนโดฯ หรูดังกล่าว พล.ต.ต.ธีรเดช จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน โดย พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. แฝงตัวเป็นช่างอาคาร จนทราบพบว่าภายในห้องดังกล่าว ใช้เป็นฐานสแกมเมอร์ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมไว้ได้

เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพ จึงถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันเป็นอั้งยี่, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างการขยายผลผู้ร่วมขบวนการ รวมถึงตรวจสอบถังข้อมูลทั้งหมดจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหา ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป