อนาถใจ! ชายวัย 48 ตีสุนัขจนตาย ชำแหละกินสด อ้างเมา ไม่รู้ผิดกฎหมาย เผยกินมานานไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัว
วันที่ 5 พ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านโนนแดง ตำบลปะโค อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ว่ามีชายรายหนึ่งกำลังกินเนื้อสุนัขอย่างสด ๆ ต่อหน้าชาวบ้าน โดยชาวบ้านได้ถ่ายคลิปไว้ได้ สร้างความตื่นตะลึงและสะเทือนใจอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อสายวานนี้ (4 พฤศิกายน) ที่ผ่านมา

หลังรับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุดจับ ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี และฝ่ายปกครองอำเภอกุดจับ ร่วมบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง วันนี้ (5 พฤศจิกายน 2568) เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวชายผู้ก่อเหตุมาสอบถาม ทราบชื่อคือ นายไสว อายุ 48 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ โดยนายไสวให้การกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากความเมา ขณะออกไปหาปูหาปลา เห็นสุนัขตัวหนึ่งเดินอยู่ริมคลองและพยายามจะกัดตน จึงใช้ค้อน (ไม้หน้าสาม) ตีจนตาย แล้วนำมาชำแหละกินเอง ทั้งดิบและสุก
นายไสว กล่าวว่า “ผมกินเนื้อหมามาตั้งแต่จำความได้ น่าจะไม่ต่ำกว่า 1000 ตัว เพราะมันอร่อย” และยอมรับว่าไม่รู้ว่าการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้หรือไม่ว่าคนทั่วไปไม่นิยมกินเนื้อสุนัข นายไสวเพียงส่ายหน้า พร้อมกล่าวว่า “ไม่รู้จริง ๆ ถ้ารู้ก็คงไม่ทำ” นายไสวยังเล่าอีกว่า หลังชำแหละสุนัข เขากินเฉพาะเนื้อและเครื่องใน ส่วนหนัง กระดูก และชิ้นส่วนอื่น ๆ นำไปทิ้งลงคลองใกล้บ้าน เจ้าตัวยังยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติด เพียงแต่ดื่มสุราและสูบบุหรี่เป็นประจำ พร้อมกล่าวขอโทษต่อสังคมว่า “ต่อไปจะไม่กินหมาอีกแล้ว ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้”

ด้านพี่ชายของนายไสว อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า น้องชายเป็นคนชอบดื่มสุราและมักเมาอยู่บ่อย ๆ เรื่องกินเนื้อสุนัขก็ทำมานานแล้ว เดิมทีตนเองก็เคยกิน แต่ได้เลิกไปนาน ส่วนมากน้องชายจะกินเฉพาะสุนัขที่ตายจากอุบัติเหตุหรือมีคนเอามาให้เท่านั้น ไม่ได้ไปฆ่ามาเอง พี่ชายยังกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า “ตอนนี้อยากให้น้องได้รับการบำบัด โดยเฉพาะเรื่องการติดสุรา เพราะเริ่มส่งผลต่อสภาพจิตใจและการใช้ชีวิตประจำวัน” พร้อมยอมรับว่ารู้สึกหนักใจ แต่จะไม่ทอดทิ้งน้องชาย เพราะยังรักและคอยตักเตือนอยู่เสมอ
ขณะที่นายประสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 กล่าวว่า นายไสวเป็นคนชอบดื่มสุรา แต่ที่ผ่านมาไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เวลาเมาก็มักเดินร้องเพลงไปทั่วหมู่บ้านเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุในครั้งนี้ ตนในฐานะผู้นำชุมชนจะประสานกับโรงพยาบาล เพื่อให้ทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือและประเมินสภาพจิตใจของนายไสว พร้อมยืนยันว่า ชาวบ้านจะไม่เอาเรื่องทางกฎหมาย เพราะสุนัขที่ถูกฆ่าไม่มีเจ้าของ และผู้ก่อเหตุอยู่ในภาวะขาดสติ เชื่อว่าอาจมีอาการทางจิตบางส่วน จึงควรได้รับการบำบัดมากกว่าการลงโทษ ล่าสุดหลังเจ้าหน้าทุกหน่วยงานได้ร่วมกันพูดคุย ทำความเข้าใจ และเข้าตรวจสอบบ้านพักของนายไสว เพื่อวางแนวทางให้การช่วยเหลือและดูแลตามขั้นตอนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต

โดยเบื้องต้น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี จะเข้าไปดูแลครอบครัวในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ขณะที่สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้จัดทีมนักจิตวิทยา ลงพื้นที่ประเมินสภาพจิตใจเบื้องต้นแล้ว และจะรวบรวมข้อมูลส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการวิเคราะห์ เพื่อกำหนดแนวทางฟื้นฟูและบำบัดต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์อยู่นั้น นายไสวได้พูดคุยอย่างอารมณ์ดี พร้อมเผยว่าตนมีฉายาในหมู่เพื่อนบ้านว่า “ไหมไทย” เพราะชื่นชอบนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ไหมไทย ใจตะวัน ก่อนจะร้องเพลง “นางฟ้ายาพิษ” ให้เจ้าหน้าที่ฟังด้วยรอยยิ้ม

















