ชาวบ้าน จ.พระนครศรีอยุธยา โอดน้ำท่วมรอบ 3 ล้างจนเหนื่อยใจ มองรัฐเยียวยา 9,000 ยังไม่คุ้มเลย แต่ต้องยอมรับสภาพ

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะชุมชนริมคลอง ริมแม่น้ำ สายต่างๆ ถนนในชุมชนริมแม่น้ำเริ่มถูกตัดขาด ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่สำรวจรอบเกาะเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับยังคงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำวันนี้จะขยับมาอยู่ที่ 2,600 ลบ.ม./วินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่ระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รอบเกาะเมืองอยุธยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

โดยที่ชุมชนนอกเกาะเมือง เช่น ชุมชนหัวแหลม หมู่ที่ 4 ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าตอนนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณสูงขึ้น หลังลดลงไปได้ไม่กี่วัน กลับท่วมขึ้นมาเป็นครั้งที่ 3 ท่วมบ้านที่ปลูกอาศัยริมแม่น้ำ ริมคลองเมือง ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมบ้านเรือนกว่าร้อยหลังคาเรือน เป็นระลอกที่ 3 แล้ว แต่มาครั้งนี้ปริมาณน้ำดูจะสูงมากกว่าเดิม บ้านเรือนทั้งหมดต้องใช้เรือเข้าออก

นางสาวน้ำอ้อย ปรีชา อายุ 64 ปี อาชีพรับจ้าง พาไปดูภายในบ้านที่ยังคงหนุนของสูงแทบติดขื่อบ้าน ห้องชั้นล่างถูกท่วมทั้งหมด ข้าวของหนุนไว้เต็มพื้นที่ ถ้ามาเพิ่มคงลำบากหนัก อีกทั้งยังพาไปดูห้องชั้นล่างที่เพิ่งล้างขัดเสร็จไปเมื่อวันก่อน ที่เตรียมจะทาสี มาวันนี้ขึ้นมาท่วมเหมือนเดิม เป็นครั้งที่ 3 เรียกว่าเหนื่อยแล้วเหนื่อยอีกกว่าจะล้างเสร็จ ทั้งดินทั้งโคลนเต็มไปหมด ก็กลับมาอีกแล้ว

นางสาวน้ำอ้อย เปิดเผยว่า น้ำท่วมมา 2 – 3 เดือนแล้ว ความเป็นอยู่ยากลำบาก ต้องจ้างเขามาขนของ ขนต้นไม้หนีน้ำ แฟนก็ไม่แข็งแรง รอบนี้ท่วมรอบที่ 3 แล้ว เพิ่งล้างบ้าน ขัดบ้านเตรียมจะทาสีซ่อมแซม ก็ท่วมขึ้นมาอีก ขึ้นเยอะด้วย ขึ้นไวมาก รู้สึกเหนื่อยแต่ก็พยายามคิดว่าเกิดจากภัยธรรมชาติคนอื่นก็โดนกัน ที่แย่กว่าเราก็มี เราก็ต้องรับให้ได้เพราะเราอยู่ริมแม่น้ำ ส่วนเงิน 9,000 บาทที่ได้รับ มองว่าไม่คุ้ม หน้าต่าง ประตู กระจกพังแตก แต่ก็ต้องยอมรับเขาให้แค่นี้ ไม่คุ้มเลยเสียหายเยอะกว่า มาท่วมคราวนี้ไวกว่าเดิม 2 – 3 วันลงไปจนแห้ง แล้วพรวดเดียวเท่าเดิมที่ทำไปเหมือนเหนื่อยไปเปล่าๆ

ด้าน นาง บุญส่ง ทรัพย์มี อายุ 71 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ อาชีพซักผ้า ท่วม 2 – 3 เดือน ลงไปได้ 4 – 5 วัน ก็กลับมาเท่าเดิมเลย ลำบากอาชีพซักผ้า ก็ต้องเลิกไปก่อนเพราะบ้านน้ำท่วมซักผ้าทำอะไรไม่ได้ ทำให้ขาดรายได้ ทำมาหากินลำบาก ต้องหยุดเลย รายได้ตอนนี้ก็ต้องขอลูก จากที่เราไม่ต้องรบกวนลูก เพราะเรามีอาชีพ แต่ต้องมาหยุดเพราะน้ำท่วม ส่วนเงิน 9000 บาท ไม่คุ้ม น้ำขึ้นๆลงๆแบบนี้ล้างบ้านหลายรอบ ปีนี้ถือว่าน้ำมาเยอะมาก และท่วมหลายรอบ ล้างก็เหนื่อยจะล้างก็มาท่วมอีก