ที่จังหวัดสระแก้ว หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจพบ PMN เพิ่มอีก 2 ทุ่น ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว เจ้าหน้าที่เก็บกู้เรียบร้อย คาดว่า 1 สัปดาห์เคลียร์จบ

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2568 กองกำลังบูรพา ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN ในพื้นที่ปฏิบัติงานบ้านหนองหญ้าแก้ว หมู่ 3 ตำบล โคกสูง เพิ่มอีกจำนวน 2 ทุ่น ในสภาพพร้อมทำงาน เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้ง 2 ทุ่น ตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อย สรุปผลการปฏิบัติภารกิจ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม ถึง 12 ตุลาคม สามารถตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN พร้อมทำงาน จำนวนทั้งหมด 5 ทุ่น

ขณะที่ ช่วงบ่าย กองทัพภาคที่ 1 และกองกำลังบูรพา ได้นำทัพสื่อมวลชนเข้าไปดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในพื้นที่ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และวันนี้ถือเป็นวันที่ 3 ของการที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังไทยสามารถยึดพื้นที่กลับคืนมาได้จากกัมพูชา และนี่นับว่าเป็นหนึ่งในมาตรการผลักดันของทหารด้วย

โดยสภาพผืนป่าที่ถูกปรับพื้นที่แล้ว นอกเส้นโพลิสไลน์ พบว่าเต็มไปด้วยดินโคลน ซึ่งขั้นตอนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดนั้น เจ้าหน้าที่ใช้ GCS-200 หรือ เครื่องจักรกวาดล้างทุ่นระเบิด 1 คัน ที่อเมริกามอบให้กับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ขับนำทาง พร้อมเครื่องจักรสนับสนุนการกวาดล้างทุ่นระเบิด 1 คัน ช่วยถากถางหญ้า เคลียร์เส้นทางให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิด 4 คน เดินเรียงโดยใช้อุปกรณ์สแกนหาวัตถุระเบิด และหากช่วงที่เครื่องจักรกวาดล้างทุ่นระเบิดกำลังทำงาน แล้วปรากฏว่าเกิดระเบิดขึ้น จะทำให้สะเก็ดระเบิดกระจาย แต่จะมีเครื่องจักรกวาดล้างระเบิดบังสะเก็ดระเบิดเอาไว้อยู่ เพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ด้าน พันโทศราวุธ สระทองเทียน ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจ 12 กองกำลังบูรพา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ให้ข้อมูลว่า แผนดำเนินการในวันนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการถางป่าหญ้าเพิ่มเติมจากเมื่อวานนี้ และใช้กําลังเจ้าหน้าที่เดินตาม ซึ่งคาดว่าจะทําให้พบทุ่นระเบิดที่ตกค้างเพิ่มเติม

สําหรับพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยที่หนองหญ้าแก้ว ที่จํากัดวงเป็นพื้นที่สีแดงมีประมาณ 1 แสน ตารางเมตร ในจํานวนนี้ได้แบ่ง เป็น 4 โซนในการดําเนินการ ซึ่งโซนเอมีอยู่ประมาณ 3 หมื่นตารางเมตร ในการตรวจค้นทุ่นระเบิดและทําพื้นที่ให้ปลอดภัย

ปัจจุบันสามารถคืนพื้นที่ได้เรียบร้อยแล้ว 15,000 ตารางเมตร ส่วนที่เหลือคาดว่าจะใช้ระยะเวลาอีก 1 สัปดาห์ เนื่องจากมีอุปสรรคของสภาพอากาศเข้ามาเป็นปัจจัยสําคัญในการทำงาน ซึ่งการดําเนินการทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย

ทางด้าน พันเอกภิชฌ์ยุทธ พรหมโท รองเสนาธิการกองทัพภาค 1 ระบุว่า พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วที่ทําการเก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้างนั้น เป็นแผนประจําปี ของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดทางด้านมนุษยธรรม ซึ่งเราได้ส่งแผนไปที่ออตตาวาอยู่แล้ว แต่ในหลายปีที่ผ่านมาไทยไม่สามารถปฏิบัติการพื้นที่ดังกล่าวได้ เพราะถูกกัมพูชาขัดขวาง แต่พอฝ่ายความมั่นคงไทยสามารถยึดคืนพื้นที่ดังกล่าวกลับคืนมาได้เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ถึงเพิ่งได้เข้ามาเคลียร์พื้นที่

ทั้งนี้พันเอกภิชฌ์ยุทธ ย้ำว่าพื้นที่อธิปไตยไทยของเรา เราสามารถทำได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต เราแค่ทําหนังสือแจ้งเท่านั้น เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เพียงแต่ที่ผ่านมาทางกัมพูชาจะอ้างว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ที่ผ่านมาฝ่ายไทยก็ไม่อยากจะให้มีปัญหา แต่ตอนนี้เราเห็นว่าทําได้ เราก็ทําทันที