กัมพูชาเคลื่อนไหว! อุ่นเครื่องรถถัง ปรับปรุงฐานที่มั่นเสริมการตั้งรับ เตรียมเส้นทางยุทธวิธี

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 8 ต.ค.68 (ณ เวลา 14.00 น.)สถานการณ์โดยรวม ตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรนบริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย 2 ลำ ตรวจพบรถบรรทุก 6 ล้อ บรรทุกทรายเต็มคัน คาดว่าเป็นการนำส่งฐานปฏิบัติการปรับปรุงที่มั่น ตรวจพบการปรับปรุงซ่อมแซมเปลี่ยนหลังคาใหม่โรงเก็บรถถัง ตรวจพบกลุ่มควันสีขาวจับตัว เป็นก้อน 3 จุด คาดว่าเป็นการอุ่นเครื่องรถถังอยู่กับที่ และได้ยินเสียงเลื่อยยนต์จากฝั่งตรงข้าม บริเวณหน้าบังเกอร์ระยะห่างออกไปประมาณ 80 ม. ทางทิศตะวันตกของปราสาทตาเมือน คาดว่าเป็นการเสริมการตั้งรับและขยายแนวสังเกตการณ์ และเตรียมเส้นทางยุทธวิธี

ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์

วันเดียวกันนี้ พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่กองกำลังสุรนารี จังหวัดสุรินทร์ โดย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางไปยังฐานปฏิบัติการในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ ได้รับฟังการบรรยายสรุปภารกิจของหน่วย ได้แก่ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ศูนย์รักษาความปลอดภัย และศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล ในการจัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม การพัฒนาขีดความสามารถ การจัดเฉพาะกิจ การประกอบกำลัง ตลอดจนแนวคิดการปฏิบัติในอนาคต และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติภารกิจของหน่วย

จากนั้นเดินทางไปยังฐานภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับทราบภารกิจของหน่วยได้แก่ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ กรมการสื่อสารทหาร หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และกอง 6 ศูนย์รักษาความปลอดภัย วางแผนแนวคิดการปฏิบัติของหน่วยต่อไปในอนาคต และให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตย

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยดำรงความพร้อมของทรัพยากรที่มีอยู่ให้สามารถรับมือต่อสถานการณ์อยู่เสมอ ภายใต้ความปลอดภัยของกำลังพลที่ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ รวมทั้งต้องติดตามข้อมูลข่าวสารและผลการหารือในเวทีระดับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อนำมาขับเคลื่อนงานตามนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยกำกับดูแลและใส่ใจกำลังพลในทุกระดับ พร้อมพิจารณาเรื่องการบริหารจัดการกำลังพล รวมทั้งให้ความสำคัญในมาตรการพิทักษ์กำลังรบ เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการรักษาอธิปไตย ความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา