ทัพเรือเผย ถนนชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงโป่งน้ำร้อน จันทบุรี พร้อมใช้งานเคลื่อนกำลังพลได้สิ้นเดือนนี้
วันที่ 8 ต.ค. 2568 พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณี พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ลงพื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด เพื่อติดตามสถานการณ์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เป็นการเข้าไปเพื่อรับทราบสถานการณ์ล่าสุด ทั้งสถานการณ์ด้านการข่าว และความพร้อมของฝ่ายไทย หากเกิดเหตุการณ์จำเป็นต้องมีการใช้กำลัง
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการติดตามการแก้ปัญหารุกล้ำชายแดนบริเวณจันทบุรี และตราด ในพื้นที่ 17 จุดที่เป็นประเด็น รวมถึงในพื้นที่ จ.ตราด จากผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี และตราด เรื่องการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตย เช่น สิ่งปลูกสร้างสามหลัง การขุดคูเลต ป่ายาง และฐานที่มั่นทางการทหาร โดยได้แก้ไขตามลำดับ เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือได้มีการกำชับให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะเป้าหมายสูงสุด คือต้องการให้สิ่งที่รุกล้ำทั้งหมดออกจากพื้นที่เส้นปฏิบัติการบนแผ่นดินไทย
นอกจากนี้ ยังเป็นการติดตามนโยบายตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในการติดตั้งรั้วบริเวณแนวชายแดน โดย ผบ.ทร. ได้ลงพื้นที่บริเวณหลักเขตที่ 52 ถึง 58 ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดแรกที่สามารถมีรั้วได้ โดยที่ทั้งสองฝ่ายให้ความยินยอม และมีปัญหาน้อยที่สุด ซึ่งอะไรที่ทำได้ก็ควรทำก่อน
ส่วนความคืบหน้าในการสร้างถนนบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่สร้างบริเวณพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ใกล้กับด่านบ้านแหลม ที่เกิดจากการลุกล้ำอธิปไตย ทั้งพื้นที่รูปตัวยูและพื้นที่รูปตัว ก. ซึ่งมีลักษณะเป็นจะงอยยื่นเข้าไปในฝั่งกัมพูชา โดยฝ่ายตรงข้ามมีการดัดแปลงภูมิประเทศ ขุดคูเลต เพื่อให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและตัดพื้นที่ส่วนที่เป็นจะงอยออกไป
จากที่ทหารไทยตรวจพบ จึงพยายามปรับภูมิประเทศให้กลับมาเหมือนเดิมด้วยการถมพื้นที่คู และหลังจากประชาชนรับทราบก็ได้มาร่วมมือกับฝ่ายทหาร ในการใช้กำลังทรัพย์ เครื่องมือหนัก และแรงงาน ในการถมคูเล็กๆ เพื่อให้พื้นที่ดังกล่าวกลับมาเป็นของไทยเหมือนเดิม พร้อมยังเล็งเห็นว่าในพื้นที่ตัวยูและพื้นที่ตัว ก. เป็นพื้นที่ยากลำบากในการเข้าถึง และส่งกำลังบำรุง รวมไปถึงการดำเนินยุทธวิธี ทุกภาคส่วนจึงรวมตัวกันในการระดมทุน
ผบ.ทร. กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่ยังช่วยงานราชการทางทหารในการสร้างถนน 15 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่า 13 กิโลเมตร ซึ่งคาดการณ์ว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ และหลังจากนั้นอาจมีการปรับปรุงต่อโดยการนำลูกรังมาเททับบริเวณด้านหน้าถนน แต่สิ้นเดือนนี้ทหารจะสามารถ ใช้ถนนสายดังกล่าวในการเคลื่อนกำลังพลทางยุทธวิธีได้
ส่วนที่ประชาชนอาจไม่เข้าใจถึงการทำงานของกองทัพจนเกิดกระแสทางสังคมในหลายเรื่อง โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า กองทัพเรือจะพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ซึ่งเรามีอำนาจและหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตย จึงขอให้ความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่าเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว