"นายกฯ" เผยเตรียมรื้อ สน.สามเสน ด่วน!! หลังพบเสาเข็มหักเพิ่ม ด้าน ผบ. ตร. เรียก รฟม.ชดใช้ทุกอย่าง

วันที่ 4 ตุลาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงประเด็นการรื้ออาคารสถานีตำรวจนครบาล(สน.)สามเสน ว่า ขณะนี้ถ้าจากการประเมินตัวอาคารไม่มีความปลอดภัย ฉะนั้นจึงต้องรื้อออกและสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของงาน จากนี้กรมโยธาธิการและผังเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเข้าไปตรวจสอบโครงสร้าง เพราะมีเสาเข็มขาดเพิ่ม

จากการพิจารณาด้วยสายตาของตนเองเมื่อคืนนี้ (3 ตุลาคม) ที่ลงพื้นที่ ส่วนตัวเห็นด้วย ที่จะต้องรื้อถอนอาคารเพราะ ตำรวจควรจะมีที่ทำงานใหม่ เนื่องจากตัวอาคารเริ่มหลุดจากศูนย์กลาง โครงสร้าง

"เราคงไม่ปล่อยให้คนเข้าไปทำงานในอาคารหลังนี้อย่างแน่นอน"

ที่ได้คุยเบื้องต้น กับทาง รฟม. ผู้รับจ้าง หน่วยงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง อาคารความสมดุลตกไปประกอบกับอาคารขนาดเล็ก เสาเข็มไม่ได้เตรียมไว้ใหญ่ ไม่ได้มีฐานอาคาร ใหญ่ ทางที่ดีที่สุดคือสร้างใหม่ ดำเนินการให้เร็วที่สุด

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมมีความเห็นตรงกันว่ารอยร้าวที่เกิดขึ้นและโครงสร้างที่เกิดความเสียหายเป็นอันตรายต่อผู้ที่จะใช้งานในอนาคตฉะนั้นแล้วการสร้างใหม่จึงเป็นแนวทางที่เห็นสมควรมากที่สุด ณ ขณะนี้

อย่างไรก็ตาม เรื่องของการรับผิดชอบส่วนของรฟม.และผู้ก่อสร้างจะต้องรับผิดชอบในการก่อสร้างอาคารใหม่รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่สน.เพิ่มเติม

ทั้งนี้ยังไม่พบข้อบ่งชี้ของแฟลตตำรวจหลังสน.ว่าจะต้องมีการทุบและสร้างใหม่เพราะฉะนั้นแล้วเบื้องต้นประเมินว่าอาคารที่ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วนคืออาคารสน.เท่านั้น

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปตรวจสอบพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรับฟังรายงานจากตำรวจในพื้นที่ระบุว่ามีเสาเข็มหักเพิ่มเติมจาก 3 ต้นเป็น 4 ต้นขณะนี้วิศวกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการหารือกัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ ที่จะต้องมีการรื้อถอนโดยเร่งด่วน โดยยึดเรื่องความปลอดภัย

ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้รับรายงานแล้วว่า จากการตรวจสอบและประเมินทราบว่าตัวอาคารมีการเสียศูนย์และร้าว ซึ่งก็จะมีการวิเคราะห์และสร้างตัวอาคารขึ้นใหม่ ตอนนี้อยู่ระหว่างการประเมินอีกครั้ง ส่วนเรื่องผู้รับผิดชอบงบประมาณก็จะต้องมีการพิจารณากันว่าหน่วยจะเป็นใคร แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน ส่วนคนผิดก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวนควบคู่กันไปด้วย