จับเขมรลอบเข้าไทย 9 คน ผ่านไร่อ้อย อรัญประเทศ รับเคยทำงานในไทย แต่กลับเขมรแล้วไม่มีงานทำ ขาดรายได้
วันที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 04.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองกำลังบูรพา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และกองร้อยทหารพรานที่ 1206 (ชค.ทพ.12) ได้จัดกำลังลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบข้ามแดนเข้ามายังฝั่งไทย
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เคลื่อนกำลังมาถึงเส้นทางการเกษตร (ไร่อ้อย) ระหว่างหลักเขตแดนที่ 51-52 บ้านกุดหิน หมู่ 4 ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ห่างจากถนนหลวงหมายเลข 3383 ประมาณ 10 เมตร ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยจำนวน 9 คน กำลังเดินเท้าแฝงตัวตามแนวธรรมชาติ จึงได้แสดงตนขอตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบว่า ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา 9 คน แบ่งเป็นชาย 4 คน หญิง 4 คน และมีผู้ติดตามอีก 1 คน ไม่มีเอกสารเดินทางหรือพาสปอร์ตแต่อย่างใด
เบื้องต้น ชาวกัมพูชากลุ่มนี้ให้การว่า เดิมทีเคยเข้ามาทำงานในประเทศไทย แต่ภายหลังถูกกวดขันจากมาตรการควบคุมการเข้าออกของทั้งสองประเทศ จึงเดินทางกลับภูมิลำเนาในกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้รับการติดต่อจากนายจ้างชาวไทยให้กลับเข้ามาทำงานที่เดิม เนื่องจากไม่มีงานทำและขาดรายได้ จึงตัดสินใจหาผู้นำพาให้ช่วยลักลอบเข้ามายังประเทศไทย โดยต้องจ่ายค่าดำเนินการคนละ 6,000 บาท
ในวันเกิดเหตุ ผู้นำพาได้พาทั้งหมดเดินเท้าลัดเลาะเส้นทางธรรมชาติ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และสามารถข้ามมายังฝั่งไทยได้สำเร็จ แต่เมื่อมาถึงพื้นที่ไร่อ้อยกลับถูกเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนตรวจพบ ขณะนั้นผู้นำพาได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าไปในไร่อ้อยจนหายตัวไปไม่สามารถจับกุมได้
หลังการตรวจสอบเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวแรงงานชาวกัมพูชาทั้ง 9 คน มายังที่ทำการกองร้อยทหารพรานที่ 1206 เพื่อซักถามและดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันกลับประเทศต่อไป
ทั้งนี้ การจับกุมในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาและแรงงานต่างด้าวขาดรายได้ ทำให้ต้องเสี่ยงจ่ายเงินจำนวนมากให้ขบวนการลักลอบ เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย