ตำรวจแจ้ง 3 ข้อกล่าวหาหนัก หนุ่มโหดวัย 35 หลังทำร้ายคนไร้บ้านแล้วเผาอำพรางคดี บริเวณตอม่อทางรถไฟ ริมถนนหลังศูนย์ราชการ เขตเทศบาลนครขอนแก่น สารภาพมีเรื่องทะเลาะกันก่อนก่อเหตุ
จากกรณีช่วงบ่ายวานนี้ (28 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีชายเมายาฆ่าชายเร่ร่อนแล้วโดนเผานั่งยาง ก่อนหลบหนี เหตุเกิดใต้สะพานรางรถไฟยกระดับ ริมถนนหลังศูนย์ราชการ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตำรวจสายตรวจจึงได้เข้าตรวจสอบ พบมีผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบชื่อนามสกุล ถูกไฟเผาจริง สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนยางรถยนต์ที่ไหม้จนหมดข้างต้นไม้ ใบหน้ามีบาดแผลถูกของแข็งทุบทั่วใบหน้าและศีรษะ นั้น
ล่าสุด (29 ก.ย. 2568) มีรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดร้านค้าแห่งหนึ่ง ริมถนนหลังศูนย์ราชการ สามารถบันทึกภาพกลุ่มควันที่เริ่มพวยพุ่งออกจากบริเวณตอม่อรถไฟ จากนั้นไม่นานควันดำได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และมีชายสวมใส่เสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงขาสั้น สวมหมวกสารสีส้ม ได้เดินออกมาจากกองไฟที่กำลังไหม้ โดยได้เดินออกไปทางถนนมิตรภาพ ก่อนที่จะเดินกลับเข้ามายังกองไฟที่กำลังลุกไหม้อีกครั้ง แล้วมายืนริมถนน แล้วเดินข้ามมายังฝั่งตรงข้าม
หลังจากนั้นชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาดับไฟ หลังเพลิงสงบพบร่างผู้เสียชีวิตนอนบนยางรถยนต์ หลังก่อเหตุตำรวจสามารถติดตามผู้ต้องสงสัย เนื่องจากมีพยานแจ้งว่า เป็นชายสวมเสื้อสีแดง กางเกงขาสั้น สวมรองเท้าผ้าใบ จากนั้นตำรวจสายตรวจได้พบชายต้องสงสัย อยู่ริมถนนมิตรภาพก่อนถึงสี่แยกสามเหลี่ยม จึงเข้าควบคุมตัวทราบชื่อต่อมาคือ นายอนุวัฒน์ อายุ 35 ปี รับสารภาพภายหลังว่า เป็นคนก่อเหตุฆ่าแล้วเผานายไม้ อายุ 35 ปี บริเวณตอม่อทางรถไฟ ริมถนนหลังศูนย์ราชการ เขตเทศบาลนครขอนแก่น
จากการตรวจสอบพบของกลาง หมวกฟาง สีเหลือง จำนวน 1 ใบ เสื้อเชิ้ตแขนสั้น สีแดง จำนวน 1 ตัว กางเกงขาสั้นสีกรม จำนวน 1 ตัว รองเท้าหุ้มส้น สีน้ำตาล จำนวน 1 คู่ ไฟแช็ก จำนวน 2 อัน ใบมีดจำนวน 1 เล่ม และเมื่อตรวจสอบปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง โดยนายอนุวัฒน์ ผู้ต้องหาสารภาพว่า มีเรื่องทะเลาะกันเลยใช้แก้วบริเวณนั้นแทงไปที่หน้าของนายไม้ แล้วก็ใช้น้ำมันรอนสันราดเป็นเชื้อเพลิงจุดไฟเผา ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ในระหว่างการติดตามหาญาติ เพราะทราบชื่อเล่นว่าไก่ เป็นชายอายุประมาณ 35 ปี
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย