ทหารกองกำลังบูรพา จับกุมยกแก๊ง 19 ราย เครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติ บริเวณชายแดนบ้านโนนขี้เหล็ก จ.สระแก้ว และพบยาบ้า ยาไอซ์ในตัวผู้นำพา สารภาพหวังข้ามแดนไปทำงานที่เขมร ส่วนอีกกลุ่มลอบเข้ามาทำงานเย็บผ้าในไทย
วันที่ 28 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา โดย พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ร่วมกับกองร้อยทหารพรานที่ 1204 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 และทหารจาก ม.พัน 30 เข้าสกัดจับขบวนการลักลอบนำคนข้ามแดนครั้งใหญ่ ในพื้นที่บ้านโนนขี้เหล็ก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ถูกจับไว้ได้ รวม 19 คน ประกอบด้วย ผู้นำพาชาวไทย 1 คน และกลุ่มคนที่ลักลอบเข้า-ออกประเทศ อีก 18 คน
ทั้งนี้ สำหรับการจับกุมดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ และตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังแนวชายแดน จึงเข้าควบคุมตัวเพื่อตรวจสอบ พบเป็นกลุ่มคนกลุ่มขนาดใหญ่ มีทั้งชาวไทย และชาวเมียนมา โดยสามารถแยกผู้ถูกควบคุมตัวเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ 1. ผู้นำพาชาวไทย พร้อมของกลางยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายทวี อายุ 47 ปี ผู้ทำหน้าที่นำพาและตรวจค้นพบ ยาไอซ์ น้ำหนัก 0.385 กรัม และยาบ้า 2 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพาย จึงแจ้งข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดเพิ่มเติม
ขณะที่กลุ่มที่ 2. กลุ่มลักลอบเข้า-ออกประเทศ 18 คน ประกอบด้วย คนไทย 15 คน ชาวเมียนมา 3 คน โดยจากการสอบสวน ชาวไทย 15 คน ให้การว่า ต้องการลักลอบข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชาเพื่อทำงานผิดกฎหมายในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่มีเป้าหมายคือ เว็บพนันออนไลน์ และที่น่าสนใจคือ บางส่วนอ้างว่า ถูกชักชวนให้ไปเปิดบัญชีธนาคารและสแกนใบหน้า โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการข้ามแดน (ค่าหัวฟรี) ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของการล่อลวงให้ทำผิดกฎหมาย
ขณะที่ ชาวเมียนมา 3 คน แบ่งเป็น ชาย 1 คน หญิง 2 คน ให้การว่า ต้องการเดินทางมาทำงานเย็บผ้าในประเทศไทย โดยยอมจ่ายเงินให้กับนายหน้าชาวเมียนมา คนละ 250,000 จ๊าด หรือ ประมาณ 3,956 บาท แต่ถูกจับกุมตัวไว้ได้ขณะลักลอบเข้าเมือง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ถูกควบคุมตัวทั้งหมด 19 คน ไปสอบสวนเพิ่มเติมและทำบันทึกจับกุม ก่อนจะส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลถึงเครือข่ายค้ามนุษย์ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป