แม่ทัพกุ้ง ชี้ภาพรถถังไทยประจำชายแดน อาจเป็นภาพเก่า ช่วงนี้ไม่มีเคลื่อนย้าย ฝากประชาชนอย่าโพสต์พิกัด-ความลับราชการ

วันที่ 26 ก.ย. 2568 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีพนักงานขนส่งพัสดุของบริษัทหนึ่ง โพสต์ภาพที่ตั้งของรถถังที่ประจำอยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เราขอความร่วมมือในการเผยแพร่ภาพการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทธโธปกรณ์ หรือพิกัดทางการทหาร ซึ่งในห้วงนี้ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายอะไร อาจจะเป็นภาพเก่า เพราะเราได้หยุดการเคลื่อนไหวตามข้อตกลงหยุดยิงอยู่แล้ว มองว่า เป็นภาพเก่าที่นำมารีวิวใหม่ จึงขอฝากประชาชนไม่ให้ดำเนินการดังกล่าว ให้ลดการโพสต์เพื่อรักษาความลับทางราชการ

เมื่อถามถึงกรณีกระแสข่าว มีระเบิดลงที่เนิน 498 ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี พลโท บุญสิน ระบุว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และสิ่งเหล่านี้จะเป็นหลักฐานที่เราต้องเก็บรวบรวมไว้ เพื่อนำไปประท้วงกับคณะผู้สังเกตการณ์ หรือ IOT

พลโท บุญสิน ยังย้ำว่า กองทัพจะต้องเป็นสุภาพบุรุษในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีเหตุหรือเงื่อนไข สถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เราก็ต้องทำหน้าที่เพราะเราเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้วและไม่ควรทำตามกระแส ซึ่งจะทำอะไรก็ต้องมีเหตุและผล รวมถึงความมั่นคงของประเทศชาติและภาพรวม

ทั้งนี้ พลโทบุญสิน ไม่ห่วงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แม้ว่ากำลังเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะมีบุคคลที่มารับหน้าที่ต่อเนื่องได้อยู่แล้ว อีกทั้งตนก็ยังอยู่เป็นที่ปรึกษาของผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ก็เคยเป็นรองแม่ทัพและอยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด ขณะที่การทำงานร่วมกับรัฐบาลก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันอยู่แล้ว และตนเตรียมจะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ และจะอยู่ในพื้นที่จนกระทั่งวันสุดท้าย ซึ่งหลังจากเกษียณก็ยังไม่ไปไหน ยังอยู่กับประชาชนและทำงานตามที่ ผบ.ทบ.มอบหมาย

เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ให้ทหารสามารถตัดสินใจได้ทันทีนั้น พลโทบุญสิน ระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี และเป็นไปตามนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. โดยเฉพาะเรื่องที่กระทบกับความมั่นคงในภาพรวม เพราะการตัดสินใจฝ่ายเดียวอาจจะสูญเสียบางอย่าง

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ. ได้ฝากอะไรไว้หรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ตึงเครียด แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เราก็ร่วมกันแก้ปัญหา นำพาประเทศให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมทั้งยืนยันว่า แม้ฝ่ายกัมพูชา จะใช้อาวุธเล็ก ก็ยังไม่สามารถใช้อาวุธใหญ่ได้ จนกว่ากัมพูชาจะนำอาวุธใหญ่ออกมาใช้ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นรังแก

เมื่อถามว่า หากเริ่มช้าจะเสียเปรียบหรือไม่ พลโท บุญสิน ระบุว่า ต้องดูตามห้วงเวลา