ผู้ว่าฯ สระแก้ว พาสื่อลงพื้นที่ด่านเขาดิน โต้ข่าวปลอมเปิดด่าน สั่งนายอำเภอแจ้งความคนปล่อยข่าว ลั่น "ปัญหาชายแดนสระแก้ว อยากให้จบสมัยผม"

วันที่ 22 ก.ย. เวลา 14.30 น. ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ราชการจังหวัดสระแก้ว พาสื่อมวลชนลงพื้นที่ หลังมีกระแสข่าวในโซเชียลว่า มีการเปิดด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว มีการนำสินค้าเข้าออก โดยนายปริญญา ยืนยันว่าไม่เคยมีการเปิดด่านตั้งแต่มีสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่า มีการปล่อยข่าวที่ไม่เป็นความจริงถึงการเปิดด่าน ตนได้มอบหมายให้นายอำเภอคลองหาดไปแจ้งความดำเนินคดี โดยยืนยันอีกครั้งว่า ด่านบริเวณตลอดแนวชายแดนสระแก้วไม่มีการเปิด ไม่ว่าจุดผ่อนปรนหรือด่านถาวร

สำหรับบริเวณด่านเขาดินจะติดกับอำเภอทมอพวก จ.พระตะบอง ของกัมพูชา โดยที่ผ่านมาไม่พบกลุ่มมวลชนมารวมตัวกันเพื่อประท้วงแต่อย่างใด

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังชี้แจงเพิ่มเติมถึงเรื่องที่มีกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตัวเองว่า มติ 8 ข้อ ที่เสนอไป ก็เป็นมติมาจากจังหวัดไม่มีระดับนโยบายไหนที่ชี้มาให้เราทำ ขอยืนยันว่าผู้ว่าฯสระแก้วไม่ได้มีผลประโยชน์ในพื้นที่ เหมือนผู้ว่าบันเตียเมียนเจย เพราะผู้ว่าฯ บันตาเมียนเจย เป็นเจ้าของที่ และเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ถึงต้องเข้ามาเคลื่อนไหว ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว มีหน้าที่สนับสนุนแนวหน้า

ด้านนายด่านเขาดิน ระบุว่า ตั้งแต่มีมาตรการปิดด่าน ยังไม่มีการนำเข้า ส่งออกสินค้าแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็ได้มีการสนธิกำลัง ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจับกุม ผู้ที่ลักลอบส่งออกสินค้า ไปยังกัมพูชา อย่างผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค

ข้อมูลจากนายอําเภอคลองหาด ระบุว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวปลอมการเปิดด่านเขาดิน ซึ่งสร้างความเสียหายต่อภาครัฐ โดยได้ไปแจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.คลองหาด แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ของพนักงานสอบสวน ที่พบหลักฐานชัดเจน มีชื่อชัดเจนค้นหาได้ เป็นคนไทยจากหลายพื้นที่ ซึ่งอาจจะไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง จึงได้มีการแชร์ข้อมูลไป

นอกจากนี้ผู้ว่าฯ ยังพูดถึงเรื่องการส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ว่าก็เป็นไปตามข้อตกลงของสองประเทศที่ให้มีการพูดคุยกันระหว่างสองจังหวัดที่ติดริมชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ทํางานอยู่ในพื้นที่ ตนก็ต้องรู้จักกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยอยู่แล้ว แต่ไม่ได้หมายถึงว่า เราจะต้องยอมเขาทุกเรื่อง ซึ่งข้อเสนอที่ทางเราเสนอไปทางฝ่ายกัมพูชาก็ไม่ยอมรับ จึงทําให้ต้องมีการส่งข้อเสนอใหม่กลับไปเพิ่มเติม 3 ข้อ โดยได้มีการหารือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ก่อนที่จะส่งข้อเสนอกลับไป

ส่วนการขีดเส้นใต้ให้กัมพูชารื้อถอนออกไปในวันที่ 10 ตุลาคม นั้น หากทางกัมพูชาไม่ยอมออกจากพื้นที่ภายในระยะเวลากำหนดจะดำเนินการอย่างไร ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วระบุว่า หลังวันที่ 10 ตุลาคม เป็นหน้าที่ของระดับนโยบายที่จะสั่งการลงมาในพื้นที่ว่าจะมีแผนให้พื้นที่ทำอย่างไร ทางนายกรัฐมนตรีได้มีระบุชัดเจน มอบอำนาจให้ทางทหาร ทางกองทัพบริหารจัดการในพื้นที่หน้าแนว ก็ต้องรอดูหลังที่ทางนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อทางสภาผู้แทนราษฎรก่อน ว่าจะมีคำสั่งการ ให้พื้นที่อย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ หากมีเหตุก่อนวันที่ 10 ตุลาคม ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วระบุว่า ทาง จังหวัด ฝ่ายความมั่นคง กองกำลังต่างๆ ทั้งชุดควบคุมฝูงชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้วางแผนปฏิบัติไว้หมดแล้ว ตามยุทธวิธี เบาไปหาหนัก ถ้าฝั่งมวลชนกัมพูชายังไม่หยุด หรือมีการกระทำก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ มีการขโมยอุปกรณ์ต่างๆ มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน หรือประชาชนคนไทย ทางทหาร ตำรวจก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ในด้านแนวหน้าอย่างเต็มที่ไม่ปล่อยไว้แน่นอนขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้

ส่วนเรื่องการปล่อยข่าวปลอมว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วชวนพลโทเป็จ วรรณา มารักษาที่ไทยก็ไม่เป็นความจริง สิ่งที่พยายามจะสื่อคือ เขามารักษาพยาบาลที่ประเทศไทย แล้วทำไมยังไม่รู้สึกสำนึก พร้อมย้ำไม่เคยชวนให้มารักษา

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ทิ้งท้ายว่า จะเกษียณในวันที่ 30 กันยายน ปี 69 กรณีของตนต้องใช้คำว่าต่อวาระการดำรงตำแหน่ง ไม่ใช่การต่ออายุราชการ ย้ำว่าหนึ่งปีหลังจากนี้ไม่ท้ออย่างแน่นอน และจะทำงานอย่างเต็มที่ พร้อมบอกอีกว่า ปัญหาชายแดนสระแก้ว "อยากให้จบในสมัยผมนี่แหละ"