ชาวบ้านชายแดนศรีสะเกษ ฝากความหวังรัฐบาล–แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคง

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 บรรยากาศที่หมู่บ้านชายแดนในพื้นที่ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ บริเวณแนวเขาพระวิหาร ยังคงเต็มไปด้วยความไม่มั่นคง หลังเหตุปะทะชายแดนเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ประชาชนต้องอพยพออกจากพื้นที่ทั้งหมด บ้านเรือน รวมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดของฝ่ายตรงข้าม แม้จะสามารถกลับเข้าบ้านได้แล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิดและใช้ชีวิตด้วยความระแวดระวัง โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่ชาวบ้านยังรู้สึกไม่ปลอดภัย และพร้อมจะหลบภัยลงหลุมหลบระเบิดอยู่เสมอ

ประชาชนในพื้นที่ต่างมีความหวังต่อรัฐบาลชุดใหม่ และแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ว่าจะสามารถเข้ามาคลี่คลายปัญหาทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงให้กลับคืนสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว

นายวิสิทธิ์ ชาวบ้านหนองหว้า เผยว่า ปัญหาหลักคือ ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ทั้งยางพารา มันสำปะหลัง และพืชผัก รวมถึงการที่ทหารยังไม่อนุญาตให้เข้าไปกรีดยางในพื้นที่ใกล้ชายแดน ทำให้กว่า 30-40 ครอบครัวขาดรายได้ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม แม้จะมีการเยียวยาจากรัฐบาลบ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน

นอกจากนี้ ยังมีปัญหา เรื่องที่ดินทำกิน ที่บรรพบุรุษสืบทอดมา แต่ปัจจุบันบางส่วนถูกประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ แม้จะเคยร้องเรียนหลายสมัยก็ยังไม่มีความคืบหน้า

ด้านนายหมื่น ชาวบ้านบึงมะลู กล่าวว่า หวังว่ารัฐบาลใหม่จะดูแลราคาผลผลิตเกษตรให้ดีขึ้น และยังเห็นว่าควร ระงับการเปิดด่านชายแดน ไว้ก่อน หากสถานการณ์ยังไม่มั่นคง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา

ขณะที่ นางสมวย ชาวบ้านโนนดู่ ยังคงมีความหวาดวิตกจากเสียงดังที่ได้ยินอยู่เป็นระยะ แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงแล้ว แต่ภาพความรุนแรงยังฝังใจ และหวังว่าทั้งสองประเทศจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อให้ชายแดนกลับมาสงบสุขเหมือนในอดีต